ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,818.13 จุด ร่วงลง 119.13 จุด หรือ -0.70% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,350.36 จุด ลดลง 18.32 จุด หรือ -0.42% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,949.98 จุด ลดลง 12.63 จุด หรือ -0.64%
ในช่วงแรกนั้น ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวขึ้นขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ โดยในช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์เปิดเผยว่า ดัชนีราคาบ้าน 20 เมืองในเดือนเม.ย. ปรับตัวขึ้น 10.8% จากเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว
ด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ค.ปรับตัวสูงขึ้น 18.6% แตะที่ 504,000 ยูนิต ซึ่งเพิ่มขึ้นในอัตราที่รวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2535 หรือในรอบ 22 ปี และแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2551 หรือในรอบ 6 ปี นับเป็นสัญญาณถึงการฟื้นตัวของตลาดที่อยู่อาศัยหลังจากที่ได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศหนาวรุนแรงเมื่อช่วงต้นปีนี้
ส่วนคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นกลุ่มวิจัยเอกชน เปิดเผยว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวขึ้นแตะ 85.2 ในเดือนมิ.ย. จาก 82.2 ในเดือนพ.ค. โดยดัชนีเดือนมิ.ย.สูงกว่าที่นักเศรษฐศาตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ที่ 83.5
อย่างไรก็ตาม ตลาดอ่อนแรงลงในเวลาต่อมาและร่วงลงปิดในแดนลบ หลังจากดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดระดับใหม่ในระหว่างวันที่ 1,968.17 จุด
หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลง โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ร่วงลง 1.6% และหุ้นไพโอเนียร์ เนเชอรัล รีซอสเซส ดิ่งลง 4.8%
หุ้นอลิซาเบธ อาร์เดน ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำหอมแบรนด์ "Elizabeth Taylor" และ "Britney Spears" ร่วงลง 3.1% หลังจากบริษัทประกาศแผนปรับโครงสร้างองค์กร ซึ่งรวมถึงการลดจำนวนพนักงานและปิดโรงงานที่เปอร์โตริโก
หุ้นอินเตอร์เนชันแนล เอ็กซ์เชนจ์ ดิ่งลง 4% หลังจากนักวิเคราะห์ของเวลส์ ฟาร์โก ได้ปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าว