สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิพุ่งขึ้น 164.10 จุด หรือ 1.08% ปิดที่ 15,326.20 จุด
ในช่วงแรกนั้น ตลาดหุ้นโตเกียวมีปฏิกริยาในด้านลบต่อผลสำรวจของธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ที่ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ของญี่ปุ่น (ทังกัน) ประจำไตรมาสที่ 2 ปรับตัวลดลงสู่ระดับ +12 จากระดับ +17 ในช่วงไตรมาสแรก
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนได้กลับเข้าซื้อหุ้นในเวลาต่อมา หลังจากบีโอเจคาดการณ์ในรายงานดังกล่าวว่า ดัชนีทังกันมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นสู่ระดับ +15 ในไตรมาส 3 ซึ่งบ่งชี้ว่าผลกระทบเชิงลบที่เกิดจากการปรับขึ้นภาษีการบริโภคนั้น อยู่ในวงที่จำกัด
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนหลังจากสหพันธ์พลาธิการและการจัดซื้อของจีน (CFLP) และสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) เปิดเผยในวันนี้ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีนในเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้นแตะ 51 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน เทียบกับระดับ 50.8 ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวแข็งแกร่งในช่วงสิ้นไตรมาส 2 และส่งสัญญาณบวกว่าเศรษฐกิจของจีนกำลังมีเสถียรภาพมากขึ้น
หุ้นที่ต้องพึ่งพาการส่งออกพุ่งขึ้นแข็งแกร่ง หลังจากสกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นแตะกรอบกลางของ 101 เยน โดยหุ้นโตโยต้า ปรับขึ้น 1.4% และหุ้นเอ็นอีซี พุ่งขึ้น 5%
ส่วนหุ้นโซนี ดีดตัวขึ้น 1.4% หลังจากมีรายงานว่าประธานคนใหม่ของโซนีคาดการณ์ว่าบริษัทจะสามารถทำกำไรได้ในปีงบการเงินปัจจุบัน