หลังจากตลาดเปิดทำการได้ไม่นาน ดัชนีดาวโจนส์ดีดขึ้น 86.89 จุด หรือ 0.52% แตะที่ 16,913.49 จุด ดัชนี S&P 500 บวก 6.97 จุด หรือ 0.36% แตะที่ 1,967.20 จุด ส่วนดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 24.71 จุด หรือ 0.56% แตะที่ 4,432.89 จุด
บรรยากาศการซื้อขายได้รับแรงหนุนจากการที่สหพันธ์พลาธิการและการจัดซื้อของจีน (CFLP) และสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีนในเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้นแตะ 51 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน เทียบกับระดับ 50.8 ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวแข็งแกร่งในช่วงสิ้นไตรมาส 2 และส่งสัญญาณบวกว่าเศรษฐกิจของจีนกำลังมีเสถียรภาพมากขึ้น
ข้อมูลของทางการจีนสอดคล้องกับดัชนี PMI ภาคการผลิตของเอชเอสบีซี ซึ่งดีดตัวขึ้นแตะ 50.7 ในเดือนมิ.ย. จาก 49.4 ในเดือนพ.ค. โดยนายฉู หงปิน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเอชเอสบีซีกล่าวในแถลงการณ์ว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตจีนที่ปรับตัวขึ้นในเดือนมิ.ย.ได้ยืนยันถึงแนวโน้มของอุปสงค์ที่แข็งแกร่งขึ้น พร้อมระบุด้วยว่า เศรษฐกิจจีนจะยังคงมีสัญญาณการฟื้นตัวมากขึ้น และแนวโน้มนี้จะต่อเนื่องไปในช่วงหลายเดือนข้างหน้า โดยได้รับแรงหนุนจากการลงทุนด้านสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานที่แข็งแกร่งขึ้น
ขณะเดียวกัน นักลงทุนรอดูการเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตเดือนมิ.ย.โดยสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ในคืนนี้ตามเวลาประเทศไทย ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นแตะ 55.9 จากระดับ 55.4 ในเดือนก่อนหน้า
ด้านค่ายรถยนต์รายใหญ่ของสหรัฐมีกำหนดการเปิดเผยยอดขายยานยนต์ในประเทศประจำเดือนมิ.ย.ในวันนี้ โดยเจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) เผยว่า ยอดขายรวมของบริษัทในสหรัฐเพิ่มขึ้น 1% จากปีก่อน ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ว่าน่าจะร่วงลงอันเนื่องมาจากการเรียกคืนรถ เพราะปัญหาสวิตช์กุญแจบกพร่อง
หุ้นจีเอ็มพุ่ง 1.07% ในช่วงเปิดตลาดวันนี้
ทั้งนี้ ความสนใจของตลาดในสัปดาห์นี้พุ่งไปที่การเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนมิ.ย.ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันพฤหัสบดีนี้ รวมทั้งถ้อยแถลงจากเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในที่ประชุมกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) วันพุธนี้
ตลาดการเงินสหรัฐจะปิดทำการในวันศุกร์ที่ 4 ก.ค.นี้ เนื่องในวันชาติสหรัฐ