ทั้งนี้ ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลง 52.88 จุด หรือ 0.31% แตะที่ 16,932.73 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 15.71 จุด หรือ 0.80% แตะที่ 1,957.12 จุด และดัชนี Nasdaq ร่วงลง 66.48 จุด หรือ 1.50% แตะที่ 4,352.55 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กเรื่องลงเนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลต่อข่าวที่ว่า เอสปิริโต ซานโต ไฟแนนเชียล ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของธนาคารบังโค เอสปิริโต ซานโต ธนาคารรายใหญ่ของโปรตุเกส ได้เลื่อนการจ่ายเงินไถ่ถอนตราสารหนี้ระยะสั้น
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากนายเจมส์ บุลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์กล่าวว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะเวลาที่รวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้
นายบุลลาร์ดคาดการณ์ว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญนั้น จะขยายตัว 2.4% ภายในปี 2558 ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2% ซึ่งข้อมูลดังกล่าวอาจจะกดดันให้เฟดตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะเวลาที่รวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้
ด้านนักวิเคราะห์จากวาณิชธนกิจหลายแห่ง รวมถึงเจพีมอร์แกน และโกลด์แมน แซคส์ ต่างก็คาดการณ์ว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยเจพีมอร์แกนคาดว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในช่วงไตรมาส 3 ปี 2558 แทนที่จะเป็นไตรมาส 4 ปี 2558 ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้
อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งของข้อมูลด้านแรงงานของสหรัฐได้ช่วยสกัดแรงลบในตลาดหุ้นนิวยอร์กเอาไว้ได้ระดับหนึ่ง โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 5 ก.ค. ร่วงลง 11,000 ราย สู่ระดับ 304,000 ราย ซึ่งตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะทรงตัวอยู่ที่ระดับ 315,000 ราย ส่วนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ ซึ่งสามารถวัดแนวโน้มตลาดแรงงานได้ดีกว่าเพราะมีความผันผวนน้อยกว่าตัวเลขรายสัปดาห์นั้น ปรับตัวลดลง 3,500 ราย สู่ระดับ 311,500 ราย นับเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานของสหรัฐมีความแข็งแกร่งมากขึ้น
หุ้นโฮม ดีโปท์ และหุ้นไนกี้ ต่างก็ร่วงลงอย่างน้อย 1.6% ขณะที่หุ้นแพนโดรา มีเดีย อิงค์ และหุ้นเฟซบุ๊ก ปรับตัวลงอย่างน้อย 1%