ทั้งนี้ เมื่อเวลา 08.09 น.ตามเวลานิวยอร์ก ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าปรับตัวขึ้น 53 จุด หรือ 0.3% แตะที่ 16,969 จุด และดัชนี S&P 500 ปรับตัวขึ้น 0.2% แตะที่ 1,977.4 จุด
หุ้นเมอร์ก แอนด์ โค ซึ่งเป็นบริษัทผลิตยารายใหญ่ของสหรัฐ ปรับตัวขึ้น 0.6% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้ในไตรมาส 2 อยู่ที่ 85 เซนต์ต่อหุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 4 เซนต์ต่อหุ้น
หุ้นแอตน่า อิงค์ ดีดขึ้น 4.9% หลังจากบริษัทปรับเพิ่มคาดการณ์ผลกำไรปี 2557 ขณะที่หุ้นวินด์สตรีม โฮลดิ้งส์ อิงค์ พุ่งขึ้น 7% หลังจากบริษัทเผยว่าจะกระจายสินทรัพย์บางส่วนสู่กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ เช่นเดียวกับหุ้นไฟเซอร์ และ เมิร์ค แอนด์ โค ที่ปรับตัวขึ้นหลังการเปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาสที่สูงกว่าคาดการณ์
อย่างไรก็ตาม หุ้นยูไนเต็ด พาร์เซล เซอร์วิส (ยูพีเอส) ซึ่งเป็นบริษัทบรรจุภัณฑ์รายใหญ่ระดับโลก ร่วงลง 3.4% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้ในไตรมาส 2 อยู่ที่ 1.55 ดอลลาร์ต่อหุ้น ซึ่งน้อยกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
นักลงทุนกำลังจับตาดูการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ในวันที่ 29-30 ก.ค.นี้ โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เฟดจะลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรลงอีก 1 หมื่นล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ และคาดว่าที่ประชุมจะหารือกันเกี่ยวกับเงื่อนไขในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยนักเศรษฐศาสตร์ประมาณการว่า เฟดอาจจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 0.5% ในเดือนก.ค. 2558
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 2 ของสหรัฐซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันพรุ่งนี้ โดยนักวิเคราะห์จากแบงก์ ออฟ อเมริกา เมอร์ริล ลินช์ คาดว่าจีดีพีสหรัฐจะขยายตัวแข็งแกร่งถึง 3.5% หลังจากที่หดตัวลง 2.9% ในไตรมาสแรก อันเนื่องมาจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นอย่างผิดปกติในสหรัฐ พร้อมกับจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนก.ค.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ ซึ่งคาดว่าตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 250,000 ราย