ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.5% ปิดที่ 340.44 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,312.30 จุด ลดลง 53.28 จุด หรือ -1.22% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,593.68 จุด ลดลง 59.95 จุด หรือ -0.62% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,773.44 จุด ลดลง 34.31 จุด หรือ -0.50%
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปเป็นไปอย่างซบเซา หลังจากมีรายงานว่ารัฐบาลสหรัฐและกลุ่มประเทศอียูประกาศเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย อันเนื่องมาจากเหตุการณ์ความไม่สงบในยูเครน และข้อมูลที่ระบุว่ารัสเซียยังคงให้ความช่วยเหลือกลุ่มกบฏในพื้นที่ทางตะวันออกของยูเครน
ทั้งนี้ มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐดังกล่าวพุ่งเป้าไปที่ธนาคารของรัฐบาลรัสเซีย 3 แห่งของรัสเซีย รวมทั้งอุตสาหกรรมพลังงานและการผลิตอาวุธ ขณะที่มาตรการคว่ำบาตรของอียูครอบคลุมถึงการกีดกันไม่ให้รัสเซียสามารถเข้าถึงการระดมทุนจากธนาคารและเทคโนโลยีอันทันสมัย ซึ่งรวมถึงการห้ามไม่ให้ธนาคารของรัฐบาลรัสเซียทำการขายหุ้นหรือพันธบัตรในตลาดยุโรป
ความวิตกกังวลเกี่ยวกับมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียได้บดบังปัจจัยบวกจากรายงานที่ว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐในไตรมาส 2 ขยายตัวอย่างแข็งแกร่งถึง 4%
หุ้นชไนเดอร์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์ด้านอุตสาหกรรมรายใหญ่ของยุโรป ร่วงลง 4.3% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรก่อนหักภาษีอยู่ที่ 1.5 พันล้านยูโร ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 1.54 พันล้านยูโร
หุ้นโททาล บริษัทน้ำมันชื่อดังของฝรั่งเศส ร่วงลง 4.9% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรไตรมาส 2 ลดลงสู่ระดับ 3.2 พันล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม หุ้นธนาคารบาร์เคลย์ส พุ่งขึ้น 4.2% ขานรับรายได้สุทธิของธนาคารที่เพิ่มขึ้นเป็น 161 ล้านปอนด์ ขณะที่หุ้นเปอร์โยต์ พุ่งขึ้น 6% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด อันเนื่องมาจากการลดต้นทุน
ส่วนหุ้นแอร์บัส ปรับตัวขึ้น 3% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการครึ่งปีแรกเพิ่มขึ้นเป็น 1.77 พันล้านยูโร เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วที่ระดับ 1.61 พันล้านยูโร