ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,429.47 จุด ร่วงลง 139.81 จุด หรือ -0.84% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,352.84 จุด ลดลง 31.05 จุด หรือ -0.71% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,920.21 จุด ลดลง 18.78 จุด หรือ -0.97%
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากนักลงทุนวิตกว่าสถานการณ์ในยูเครนอาจจะทวีความรุนแรงมากขึ้น หลังจากโปแลนด์ได้ออกมาเตือนว่า รัสเซียอาจมีแผนโจมตียูเครน หลังจากมีรายงานว่ารัสเซียเพิ่มกำลังทหารบริเวณชายแดน
ด้านนายมิไคโล โควาล รองประธานสภาความมั่นคงและการป้องกันประเทศแห่งยูเครน เปิดเผยว่า รัฐบาลยูเครนมีความวิตกกังวลเป็นอย่างยิ่ง หลังจากที่พบว่าทางรัสเซียนั้นมีการเคลื่อนไหวทางทหารในบริเวณชายแดน ในขณะที่กองทัพยูเครนได้ประกาศแผนโจมตีในเมืองโดเนทสค์ที่กลุ่มกบฎควบคุมพื้นที่อยู่
นายโควาล กล่าวว่า รัสเซียอาจใช้เรื่องปฏิบัติการโจมตีกลุ่มกบฎในยูเครนเป็นข้ออ้างในการบุกรุกดินแดนของยูเครน พร้อมเสริมว่า ฝั่งรัสเซียและไครเมียนั้นมีการเคลื่อนไหวทางกำลังทหารรวมถึงรถถัง ในพื้นที่ใกล้เคียงชายแดนของทั้งสองประเทศ นอกจากนี้ กองทัพอากาศของรัสเซียยังได้มีการฝึกซ้อมเครื่องบินรบกว่า 100 ลำเป็นเวลา 5 วัน
ตลาดได้รับแรงกดดันมากขึ้นจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเวลาที่รวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ หลังจากมีข้อมูลบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ โดยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย มาร์กิต อิโคโนมิกส์ เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของสหรัฐขยายตัวขึ้นสู่ระดับ 60.8 ในเดือนก.ค.
ขณะที่สถาบันจัดการอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 58.7 ในเดือนก.ค. จากระดับ 56 ในเดือนมิ.ย. โดยตัวเลขเดือนก.ค.เป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2548 หรือในรอบแปดปีครึ่ง และดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นที่เพียง 56.5
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าที่ผลิตในโรงงานสหรัฐปรับตัวขึ้น 1.1% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งที่สี่ในรอบห้าเดือน และมากที่สุดในรอบสามเดือน อีกทั้งยังมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ถึงเกือบสองเท่า
หุ้นอเมริกัน อินเตอร์เนชันแนล กรุ๊ป (AIG) ปรับตัวลง 0.87% แม้ว่าบริษัทเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 2 ที่ดีเกินคาด และประกาศแผนซื้อคืนหุ้นเพิ่มอีก 2 พันล้านดอลลาร์
หุ้นโค้ช ซึ่งเป็นผู้ผลิตกระเป๋าชื่อดัง พุ่งขึ้น 4.34% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายรายไตรมาสอยู่ที่ 1.14 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้
หุ้นไทม์ วอร์เนอร์ ร่วงลง 12% หลังจากมีรายงานว่าบริษัททเวนตี้ เซนจูรี ฟ็อกซ์ ได้ถอนตัวออกจากการเทคโอเวอร์กิจการไทม์ วอร์เนอร์ ขณะที่ข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นฟ็อกซ์ พุ่งขึ้น 8.3%