ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,368.27 จุด ลดลง 75.07 จุด หรือ -0.46% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,334.97 จุด ลดลง 20.08 จุด หรือ -0.46% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,909.57 จุด ลดลง 10.67 จุด หรือ -0.56%
ในช่วงแรกนั้น ตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดตลาดดีดตัวขึ้น ขานรับรายงานที่ว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 2 ส.ค.ของสหรัฐ ลดลง 14,000 ราย แตะระดับ 289,000 ราย ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 304,000 ราย โดยการที่ภาคเอกชนชะลอการเลย์ออฟพนักงาน และยังคงมีการจ้างงานอย่างต่อเนื่องนั้น เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตลาดแรงงานของสหรัฐแข็งแกร่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กอ่อนแรงลงในเวลาต่อมา เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายอันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน หลังจากรัฐบาลรัสเซียได้สั่งห้ามการนำเข้าอาหารจากสหภาพยุโรปและสหรัฐ เพื่อตอบโต้ประเทศเหล่านี้ที่ใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย
มาตรการดังกล่าวมีขึ้นเพียงวันเดียวหลังจากประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ได้ลงนามกฤษฎีกาสั่งห้ามหรือจำกัดการนำเข้าผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรจากบรรดาประเทศที่ใช้มาตรการคว่ำบาตรกับรัสเซีย โดยมีผลบังคับใช้ทันที และอาจมีการทบทวนในอนาคต
หุ้นไทสัน ฟู๊ดส์ ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเนื้อรายใหญ่ของสหรัฐ ร่วงลง 2% หลังจากมีรายงานว่าส่วนแบ่งตลาดส่งออกของไทสัน ฟู๊ดส์ ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 7% จากระดับ 40%
หุ้นทเวนตี้ เซ็นจูรี ฟ็อกซ์ พุ่งขึ้น 5% เนื่องจากนักลงทุนขานรับผลประกอบการที่สดใสของบริษัท ส่วนหุ้นเอทนา ซึ่งเป็นบริษัทเฮลแคร์ ร่วงลง 4% หลังจากโกลด์แมน แซคส์ ปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าว
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ รวมถึงรายงานประสิทธิภาพการผลิต-ต้นทุนแรงงานต่อหน่วยเบื้องต้นไตรมาส 2/2557 และรายงานสต็อกสินค้าและยอดค้าส่งเดือนมิ.ย.