ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,560.54 จุด ลดลง 9.44 จุด หรือ -0.06% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,389.25 จุด ลดลง 12.08 จุด หรือ -0.27% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,933.75 จุด ลดลง 3.17 จุด หรือ -0.16%
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากทางการสหรัฐไม่มีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจในวันอังคาร และฤดูการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทเอกชนกำลังจะสิ้นสุดลง ดังนั้น นักลงทุนจึงหันมาจับตาสถานการณ์ในต่างประเทศ รวมถึงความขัดแย้งทางการเมืองในยูเครนและอิรัก
สำหรับสถานการณ์ในอิรักนั้น ประธานาธิบดีฟูอัด มัสซูม แห่งอิรัก ได้ประกาศแต่งตั้งนายไฮดาร์ อัล-อาบาดี เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่และจะจัดตั้งรัฐบาลในสัปดาห์หน้า ซึ่งการตัดสินใจดังกล่าวได้รับการขานรับจากสหรัฐและสหประชาชาติ แต่ถูกคัดค้านจากนายนูรี อัล-มาลิกี นายกรัฐมนตรีคนก่อนที่อยู่ในอำนาจมานานถึง 8 ปี
หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงตามราคาน้ำมันเบรนท์ โดยหุ้นคอนโซล เอนเนอร์จี ร่วงลง 2.4% หุ้นคินเดอร์ มอร์แกน ร่วงลง 1.6% และหุ้นไพโอเนียร์ รีซอสเซส ปรับตัวลง 2%
หุ้นอินเตอร์เซพ ฟาร์มาซูติคอล พุ่งขึ้น 17% ขณะที่หุ้นนิวมอนท์ ไมนิง ดีดตัวขึ้น 2%
นักลงทุนจับตาดูรายงานผลประกอบการของบริษัทเอกชนในสัปดาห์นี้ รวมถึงบริษัทค้าปลีกรายใหญ่อย่างวอล-มาร์ท ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า ผลประกอบการไตรมาส 2 ของบริษัทเอกชนจะออกมาแข็งแกร่ง ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนต่อตลาดหุ้นนิวยอร์กด้วย
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ โดยในเวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย สหรัฐจะเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนก.ค. และจากนั้นในเวลา 21.00 น.ตามเวลาไทย สหรัฐจะเปิดเผยสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนมิ.ย.