ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ลดลง 50.67 จุด หรือ 0.30% ปิดที่ 16,662.91 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ขยับลง 0.12 จุด หรือ 0.01% ปิดที่ 1,955.06 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 11.93 จุด หรือ 0.27% ปิดที่ 4,464.93 จุด
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สถานการณ์ตึงเครียดทางการเมืองระหว่างยูเครนและรัสเซียส่งสัญญาณดีขึ้น ภายหลังจากที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย กล่าวว่า รัสเซียจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยยุติความขัดแย้งในภาคตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครนอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
อย่างไรก็ดี นักลงทุนเกิดความกังวลอีกครั้งจากรายงานข่าวที่ว่า กองทัพของยูเครนได้โจมตีและทำลายยานยนต์หุ้มเกราะที่ข้ามชายแดนมาจากทางฝั่งของรัสเซียเมื่อคืนที่ผ่านมา ในบริเวณที่กลุ่มแบ่งแยกดินแดนครอบครองอยู่ แต่รัสเซียได้ออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าว โดยระบุว่าไม่มียานยนต์หุ้มเกราะข้ามชายแดนไปแต่อย่างใด
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจนั้น สหรัฐได้เปิดเผยทั้งข้อมูลที่เป็นบวกและลบ จึงไม่สามารถชี้นำตลาดได้อย่างชัดเจน
โดยกระทรวงแรงงานของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ขยับขึ้น 0.1% ในเดือนก.ค. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่
ขณะเดียวกันธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์กเปิดเผยว่า ดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม (Empire State Index) ชะลอตัวลงในเดือนส.ค. โดยปรับตัวลดลงแตะ 14.69 หลังจากที่พุ่งแตะระดับสุงสุดในรอบ 4 ปีที่ 25.60 ในเดือนก.ค.
นอกจากนี้ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐขยายตัว 0.4% ในเดือนก.ค. ซึ่งนับว่าขยายตัวเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน
ด้านความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือนส.ค.จากรอยเตอร์และมหาวิทยาลัยมิชิแกน ร่วงลงแตะระดับ 79.2 จากระดับเดือนก.ค.ที่ 81.8