หลังจากตลาดเปิดทำการได้ไม่นาน ดัชนีดาวโจน์ปรับตัวขึ้น 23.60 จุด หรือ 0.14% แตะที่ 17,002.73 จุด ดัชนี S&P 500 ดีดขึ้น 2.29 จุด หรือ 0.12% แตะที่ 1,988.80 จุด และดัชนี Nasdaq ขยับขึ้น 2.49 จุด หรือ 0.05% แตะที่ 4,528.97 จุด
ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐในวันนี้ได้ช่วยสกัดปัจจัยลบอันเนื่องมาจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงเวลาที่รวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 16 ส.ค. ปรับตัวลง 14,000 รายสู่ระดับ 298,000 ราย ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะปรับตัวลงสู่ระดับ 302,000 ราย
ขณะที่มาร์กิต อิโคโนมิคส์ เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนส.ค.ของสหรัฐ พุ่งขึ้นสู่ระดับ 58.0 จากเดือนก.ค.ที่ระดับ 55.8 โดยดัชนี PMI เดือนส.ค.ถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2553
ด้านสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ค.ปรับตัวขึ้น 2.4% แตะที่ 5.15 ล้านยูนิต โดยยอดขายบ้านมือสองปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน และมีอัตราการขยายตัวที่รวดเร็วที่สุดในรอบ 10 เดือน ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง
นักลงทุนจับตาดูการประชุมประจำปีที่เมืองแจ็คสัน โฮล มลรัฐไวโอมิง ซึ่งเฟดสาขาแคนซัส ซิตี้จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 21-23 ส.ค.นี้ โดยหัวข้อการประชุมในปีนี้คือ "Re-Evaluating Labor Market Dynamics" ซึ่งบรรดาผู้ว่าการธนาคารกลาง นักเศรษฐศาสตร์ รัฐมนตรีคลัง และเจ้าหน้าด้านอื่นๆจากทั่วโลก จะเข้าร่วมแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจและนโยบายการเงินในการประชุมดังกล่าว
ทั้งนี้ นักลงทุนต่างจับตาดูนางเยลเลน ประธานเฟด ที่จะแสดงความคิดเห็นด้านตลาดแรงงานในวันที่ 22 ส.ค. ขณะที่นายมาริโอ ดรากิ ประธานธนาคารรกลางยุโรป (อีซีบี) ก็จะเข้าร่วมปาฐกถาในการประชุมครั้งนี้ด้วย