ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ลดลง 38.27 จุด หรือ 0.22% ปิดที่ 17,001.22 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 3.97 จุด หรือ 0.20% ปิดที่ 1,988.40 จุด ดัชนี NASDAQ เพิ่มขึ้น 6.45 จุด หรือ 0.14% ปิดที่ 4,538.55 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบสี่ปีครึ่ง
อย่างไรก็ดี ตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้น 2.0% และ S&P 500 บวก 1.7% ซึ่งปรับตัวขึ้นเป็นสัปดาห์ที่สามติดต่อกัน นอกจากนี้ ทั้งดาวโจนส์และ S&P 500 ยังทำสถิติดัชนีรายสัปดาห์ปรับตัวขึ้นมากที่สุดในรอบสี่เดือนอีกด้วย เนื่องจากนักลงทุนขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใส และผลประกอบการแข็งแกร่งที่มีการเปิดเผยในรอบสัปดาห์ ขณะที่ Nasdaq พุ่งขึ้น 1.6% ตลอดทั้งสัปดาห์
ด้านบรรยากาศการซื้อขายในวันศุกร์นั้น ด้วยเหตุที่ไม่มีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในวันศุกร์ นักลงทุนจึงจับตาดูถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐเป็นพิเศษ โดยเยลเลนกล่าวว่า ตลาดแรงงานสหรัฐกำลังปรับตัวดีขึ้น แต่ขณะเดียวกันก็ยังคงมีภาวะซบเซาอยู่
ประธานเฟดระบุว่า ไม่มีสูตรง่ายๆสำหรับนโยบายที่เหมาะสม เนื่องจากความยุ่งยากซับซ้อนในการประเมินความสัมพันธ์ระหว่างภาวะซบเซาและแรงกดดันเงินเฟ้อในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในปัจจุบัน โดยนางเยลเลนยังคงสงวนท่าทีในการแสดงความเห็นว่าการฟื้นตัวดังกล่าวจะมีผลต่อนโยบายการเงินของเฟดหรือไม่
เธอกล่าวย้ำว่า นโยบายการเงินไม่ได้ถูกกำหนดไว้ล่วงหน้า พร้อมกับเน้นย้ำด้วยว่า การเปลี่ยนไปใช้นโยบายการเงินแบบเข้มงวดทันทีที่เงินเฟ้อปรับตัวกลับขึ้นสู่ระดับ 2% นั้นอาจเป็นการขัดขวางไม่ให้ตลาดแรงงานฟื้นตัวได้อย่างเต็มที่ และอาจไม่สอดคล้องกับ Dual Mandate (การจ้างงานสูงสุด และความมีเสถียรภาพด้านราคา) ของเฟด
ตลาดแทบไม่มีปฏิกิริยาต่อถ้อยแถลงของเยลเลน เนื่องจากเธอไม่ได้ส่งสัญญาณใดๆแก่นักลงทุนเกี่ยวกับช่วงเวลาที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรก ซึ่งเป็นประเด็นหนึ่งที่นักลงทุนให้ความสนใจมากที่สุดในเวลานี้
ด้านเจมส์ บุลลาร์ด ประธานเฟด เซนต์หลุยส์ ให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นบีซีในช่วงเช้าวันศุกร์ โดยเขายังคงยืนยันการคาดการณ์ของตนเองว่า อาจเริ่มมีการขึ้นดอกเบี้ยในช่วงท้ายไตรมาสแรกของปี 2558 ขณะที่เดนนิส ล็อกฮาร์ท ประธานเฟด แอตแลนตา กล่าวกับซีเอ็นบีซีภายหลังเยลเลนแถลงว่า เขาคาดว่าการขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกอาจมีขึ้นในช่วงกลางปีหน้า
สำหรับสถานการณ์ความขัดแย้งล่าสุดระหว่างยูเครนและรัสเซียนั้นดูเหมือนว่าจะกลับมาตึงเครียดอีกครั้ง เมื่อรถบรรทุกมากกว่า 150 คันได้ลำเลียงความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจากรัสเซียข้ามพรมแดนมายังยูเครน และมุ่งหน้าไปยังเมืองลูฮานสก์ ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศยูเครนได้ออกแถลงการณ์ระบุว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง และเป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นถึงการกระทำอันรุกรานและไตร่ตรองไว้ก่อนของทางฝั่งรัสเซีย