ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,122.01 จุด เพิ่มขึ้น 15.31 จุด, +0.09% ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดวันทำการล่าสุดที่ 4,569.62 จุด ลดลง 1.02 จุด, -0.02% ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดวันทำการล่าสุดที่ 2,000.12 จุด เพิ่มขึ้น 0.10 จุด, +0.00%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ รวมถึงยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนทำสถิติพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 22.6% ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2535 และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 92.4 ในเดือนส.ค. จากระดับ 90.3 ในเดือนก.ค.
นอกจากนี้ ผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทเอกชนยังช่วยหนุนตลาดหุ้นนิวยอร์กให้ดีดตัวขึ้นด้วย โดยบริษัททิฟฟานี่ ซึ่งเป็นแบรนด์เครื่องประดับหรูระดับโลก เปิดเผยผลกำไรต่อหุ้น 96 เซนต์ในช่วงไตรมาสซึ่งสิ้นสุดวันที่ 31 ก.ค. เทียบกับ 83 เซนต์ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ 85 เซนต์ ขณะเดียวกันบริษัทก็คาดการณ์ว่ากำไรต่อหุ้นในปีนี้จะอยู่ที่ 4.25-4.30 ดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าที่เคยคาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 4.15-4.25 ดอลลาร์
ทั้งนี้ ข้อมูลดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นทิฟฟานี่ พุ่งขึ้น 1% ส่วนหุ้นเบสท์บาย พุ่งขึ้น 6.3% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายที่สูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ อันเป็นผลมาจากการที่บริษัทใช้แผนลดต้นทุน
นักลงทุนจับตาดูผลประกอบการของบริษัทอาลีบาบา ซึ่งเป็นบริษัทอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ของจีน โดยอาลีบาบาได้ยื่นรายงานผลประกอบการต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐเมื่อวานนี้ และมีกรคาดการณ์ว่าอาลีบาบาจะออกหุ้น IPO ในตลาดนิวยอร์กในช่วงต้นเดือนก.ย.นี้
นอกจากนี้ นักลงทุนกำลังจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในคืนวันพฤหัสบดีนี้ตามเวลาไทย ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ประมาณการครั้งที่ 2 จีดีพีช่วงไตรมาส 2/2557 และยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนก.ค.