หลังจากที่ตลาดเปิดทำการได้ไม่นาน ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวลดลง 56.25 จุด หรือ 0.3% แตะที่ 17,065.76 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 0.2% ที่ระดับ 1,995.69 จุด ณ เวลา 22.08 น. ตามเวลาประเทศไทย
นักวิเคราะห์ระบุว่า ตลาดได้รับแรงกดดันจากความตึงเครียดที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นระหว่างรัสเซียและยูเครน ในขณะเดียวกัน ตลาดยังได้รับแรงกดดันเพิ่มขึ้นหลังจากดัชนี S&P 500 ร่วงหลุดระดับ 2,000 จุด ซึ่งเป็นระดับจิตวิทยาที่สำคัญ
ประธานาธิบดีเปโตร โปโรเชนโก ของยูเครนได้เรียกประชุมฉุกเฉินในเรื่องความมั่นคงเพื่อต่อต้านสิ่งที่เขาเรียกว่า การรุกรานของรัสเซีย หลังจากกองกำลังของกลุ่มแบ่งแยกดินแดนได้รับชัยชนะหลายครั้งในพื้นที่สู้รบในภาคตะวันออกของประเทศ
ฝรั่งเศสและเยอรมนีเตือนรัฐบาลของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ถึงการเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียหลังจากที่กลุ่มแบ่งแยกดินแดนซึ่งฝักใฝ่รัสเซียในยูเครนสามารถยึดฐานปฏิบัติการของกองกำลังยูเครนได้หลายแห่งในเมืองโดเนทสค์และลูฮานสค์
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจ กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ซึ่งเป็นมาตรวัดการผลิตสินค้าและบริการทั่วประเทศที่กว้างที่สุดของสหรัฐ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.2% ในไตรมาสที่ 2 เมื่อเทียบการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3.8%
หุ้นวิลเลียมส์-โซโนมา อิงค์ ลดลง 11% หลังจากร้านค้าเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้านรายใหญ่ของสหรัฐ คาดว่าผลประกอบการในไตรมาส 3 ของบริษัทอาจจะต่ำกว่าตัวเลขประมาณการณ์ของนักวิเคราะห์
หุ้นเอเบอร์โครมบี แอนด์ ฟิทช์ โค ซึ่งเป็นแบรนด์แฟชั่นวัยรุ่นลดลง 6% หลังระบุว่า บริษัทมียอดขายในไตรมาส 2 ต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์