ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,069.58 จุด ลดลง 8.70 จุด หรือ -0.05% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,562.29 จุด ลดลง 10.28 จุด หรือ -0.22% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,997.65 จุด ลดลง 3.07 จุด หรือ -0.15%
ในช่วงแรกนั้น ตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดตลาดปรับตัวขึ้นหลังจากอีซีบีประกาศลดอัตราดอกเบี้ยพื้นฐานที่อีซีบีเรียกเก็บจากเงินกู้ที่ปล่อยให้แก่สถาบันการเงิน (Main refinancing operation) ลงสู่ระดับ 0.05% และปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่อีซีบีจ่ายให้แก่ธนาคารที่นำเงินมาฝากกับอีซีบี (Deposit facility) ลงสู่ระดับ -0.2%
ด้านนายมาริโอ ดรากิ ประธานอีซีบีได้กล่าวในการแถลงข่าวภายหลังการประชุมว่า อีซีบียังได้ตัดสินใจที่จะเริ่มซื้อสินทรัพย์ภาคเอกชนที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน ซึ่งได้แก่ ตราสารหนี้ที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน (asset-backed securities) และตราสารหนี้ที่ค้ำประกันด้วยสินเชื่อคุณภาพ (covered bonds)
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กอ่อนแรงลงในเวลาต่อมา เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มพลังงานหลังจากราคาน้ำมันในตลาดโลกร่วงลงกว่า 1 ดอลลาร์ โดยหุ้นเชฟรอน คอร์ป และหุ้นเอ็กซอน โมบิล คอร์ป ต่างก็ปรับตัวลง 0.8%
นอกจากนี้ นักลงทุนยังได้ชะลอการซื้อขายก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรในวันศุกร์ อันเป็นผลมาจากข้อมูลด้านแรงงานที่อ่อนแอซึ่งมีการเปิดเผยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย โดย ADP ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดแรงงานในสหรัฐ เปิดเผยว่า ภาคเอกชนทั่วสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 204,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 220,000 ตำแหน่ง และน้อยกว่าที่เพิ่มขึ้น 212,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค.
ด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 30 ส.ค. เพิ่มขึ้น 4,000 ราย สู่ระดับ 302,000 ราย ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ระดับ 300,000 ราย