ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,131.97 จุด พุ่งขึ้น 100.83 จุด หรือ +0.59% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,552.76 จุด เพิ่มขึ้น 33.86 จุด หรือ +0.75% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,998.98 จุด เพิ่มขึ้น 14.85 จุด หรือ +0.75%
ในช่วงแรกนั้น ตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดตลาดอ่อนแรงลง หลังจากสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญนั้น ทรงตัวในเดือนส.ค. ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.1% ซึ่งข้อมูลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าแรงกดด้านเงินเฟ้อในสหรัฐเริ่มลดน้อยลง และอาจทำให้เฟดพิจารณาเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นในเวลาต่อมา โดยดัชนีดาวโจนส์ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในระหว่างวัน ขานรับการแสดงความคิดเห็นของนายจอน ฮิลเซนรัธ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของวอลล์สตรีท เจอร์นัล ที่กล่าวว่า เฟดอาจจะยังไม่ส่งสัญญาณเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้
การแสดงความคิดเห็นดังกล่าวทำให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลจากกระแสคาดการณ์ที่มีขึ้นก่อนหน้านี้ว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเวลาที่รวดเร็วกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาดูถ้อยแถลงของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดที่จะมีขึ้นภายหลังการประชุมครั้งนี้ด้วย
นักลงทุนติดตามดูความเคลื่อนไหวในการออกหุ้น IPO ของบริษัทอาลีบาบาอย่างใกล้ชิด หลังจากมีรายงานว่าอาลีบาบา ซึ่งเป็นบริษัทอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ของจีน ได้ปรับเพิ่มช่วงราคาหุ้น IPO เป็น 66-68 ดอลลาร์ต่อหุ้น จากก่อนหน้านี้ที่ระดับ 60-66 ดอลลาร์ต่อหุ้น ซึ่งการปรับเพิ่มช่วงราคาดังกล่าว จะทำให้อาลีบาบาสามารถระดมทุนได้สูงสุดถึง 2.18 หมื่นล้านดอลลาร์ผ่านการออกหุ้น IPO ซึ่งสูงกว่าสถิติสูงสุดที่บริษัทวีซ่าเคยทำไว้ที่ 1.97 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2551
หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้น รวมถึงหุ้นเอ็กซอน โมบิล และหุ้นชลัมเบอร์เกอร์ หลังจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวขึ้น เพราะได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มโอเปคอาจจะปรับลดเป้าหมายการผลิตในปีหน้า
หุ้น Avanir Pharmaceuticals ซึ่งเป็นบริษัทผลิตยารักษาโรคอัลไซเมอร์ ร่วงลง 3.4% ขณะที่หุ้น SodaStream พุ่งขึ้น 1%
นักลงทุนจับตาดูกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนส.ค.ในวันนี้เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย หลังจากดัชนี CPI เดือนก.ค.ปรับตัวขึ้น 0.1% ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์