หลังจากตลาดเปิดทำการได้ไม่นาน ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 26 จุด หรือ 0.1% แตะที่ 17,256 จุด ดัชนี S&P 500 ลบ 5 จุด หรือ 0.3% ที่ระดับ 2,005 จุด และดัชนี Nasdaq ปรับลง 20 จุด หรือ 0.4% มาอยู่ที่ 4,560 จุด
ตลาดได้รับปัจจัยถ่วงจากความวิตกเกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจจีน หลังจากที่นายโหลว จี้เหว่ย รมว.คลังของจีนได้กล่าวว่า จีนจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายขนานใหญ่ แม้ว่าเศรษฐกิจจีนกำลังเผชิญแรงกดดันในช่วงขาลงก็ตาม
นอกจากนี้ ข้อมูลภาคที่อยู่อาศัยที่ย่ำแย่ของสหรัฐก็เป็นแรงฉุดตลาดหุ้นนิวยอร์กด้วย โดยสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองในเดือนส.ค.ลดลง 1.8% สู่ระดับ 5.05 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 5 เดือน และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดไว้ว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้นแตะ 5.20 ล้านยูนิต
หากเทียบรายปี ยอดขายบ้านมือสองในเดือนส.ค.หดตัวลง 5.3%
หุ้นยาฮูร่วงลง 2.3% หลังหุ้นของบริษัทถูกปรับลดอันดับความน่าลงทุน ส่วนหุ้นเดรสเซอร์-แรนด์ อิงค์ ดีดขึ้น 2.6% หลังจากบริษัทซีเมนส์ตกลงซื้อกิจการบริษัทเป็นมูลค่า 7.6 พันล้านดอลลาร์