ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,071.22 จุด ลดลง 41.93 จุด หรือ -0.25% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,505.85 จุด ลดลง 6.34 จุด หรือ -0.14% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,977.80 จุด ลดลง 5.05 จุด หรือ -0.25%
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างซบเซาตั้งแต่ตลาดเปิดทำการซื้อขาย เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่า เหตุการณ์ประท้วงในฮ่องกงอาจจะส่งผลกระทบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจจีน กลุ่มผู้ประท้วงซึ่งใช้ชื่อว่า "Occupy Central with Peace and Love" นั้น มีเป้าหมายที่จะทำให้ศูนย์กลางทางการเงินของฮ่องกงตกอยู่ในภาวะชะงักงัน เพื่อตอบโต้แผนการของจีนที่ต้องควบคุมการเสนอชื่อบุคคลที่ลงสมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานบริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกง
นอกจากนี้ เหตุการณ์ประท้วงดังกล่าวยังทำให้เกิดความวิตกกังวลว่าอาจจะส่งผลกระทบต่อยอดขายแบรนด์หรูอย่าง Prada, Louis Vuitton และ Patek Philippe เนื่องจากกำลังเข้าสู่ช่วงเทศกาลวันหยุดยาวของจีน หรือ Golden Week ซึ่งนักท่องเที่ยวชาวจีนแผ่นดินใหญ่กว่าหลายแสนคนมักจะเดินทางไปยังเกาะฮ่องกง โดยคิดเป็นสัดส่วนถึง 75% ของจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมดบนเกาะฮ่องกง
ตลาดได้รับแรงกดดันมากขึ้นหลังจาก สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนส.ค.ปรับตัวลง 1% จากเดือนก่อนหน้า สู่ระดับ 104.7 โดยปรับตัวย่ำแย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะลดลง 0.5% ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการฟื้นตัวของตลาดที่อยู่อาศัยสหรัฐยังไม่มีความต่อเนือง
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ย.ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันนี้ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนก.ย.ในวันพุธ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ในวันพฤหัสบดี และตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนก.ย.ซึงจะมีการเปิดเผยในวันศุกร์
หุ้นฟอร์ด มอเตอร์ ร่วงลง 7.5% หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการในปีนี้ อันเนื่องมาจากยอดขายที่ซบเซาลงในอเมริกาใต้และยุโรป
หุ้นดรีมเวิร์คทะยานขึ้น 26.03% หลังจากมีรายงานว่าบริษัทซอฟท์แบงก์ของญี่ปุ่นกำลังเจรจาเข้าซื้อดรีมเวิร์ค แอนนิเมชัน เอสเคจี มูลค่าราว 3.4 พันล้านดอลลาร์