หลังจากที่ตลาดเปิดทำการได้ไม่นาน ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวลดลง 152.22 จุด หรือ 0.9% แตะที่ 16,890.68 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 0.6% ที่ระดับ 1,959.66 จุด ณ เวลา 22.02 น. ตามเวลาประเทศไทย
ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลดลงหลังจากที่อิตาลีได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจประเทศ ส่งผลให้เกิดความกังวลว่า เศรษฐกิจของยูโรโซนจะถดถอยลง
ส่วนผลสำรวจระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของเยอรมนีในเดือนก.ย.ร่วงลงแตะ 49.9 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 15 เดือน จากระดับ 51.4 ในเดือนส.ค.
นักลงทุนจับตาธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ประชุมและแถลงมติอัตราดอกเบี้ยในวันพรุ่งนี้เวลา 18.45 น. ตามเวลาประเทศไทย
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงกดดันหลังจากแหล่งข่าวในรัฐบาลเยอรมนีกล่าวว่า รัสเซียเสี่ยงที่จะถูกสหภาพยุโรปคว่ำบาตรเพิ่มเติม หากกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่ฝักใฝ่รัสเซียได้รับชัยนะเพิ่มในการสู้รบกับกองกำลังของรัฐบาลยูเครน
หุ้นซาเรพตา เธอราปิวติคส์ อิงค์ นำหุ้นกลุ่มผู้ผลิตยาทดลองรักษาเชิ้อไวรัสอีโบลาปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังจากการรายงานกรณีผู้ป่วยรายแรกในสหรัฐ
ในขณะเดียวกัน รายงานดังกล่าวกดดันหุ้นกลุ่มสายการบินนับตั้งแต่บริษัทอเมริกัน แอร์ไลน์ กรุ๊ป อิงค์ ไปจนถึงเดลต้า แอร์ไลน์ส อิงค์ ปรับตัวลดลง
หุ้นอีเบย์ อิงค์ ลดลง 1.6% หลังจากบริษัทเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค และเจฟเฟอรีส์ กรุ๊ป ปรับลดน้ำหนักการลงทุนในหุ้นของบริษัท