ดัชนี Stoxx 600 ร่วงลง 1.5% ปิดที่ 330.85 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,086.21 จุด ร่วงลง 123.30 จุด หนทอ -1.34% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,209.14 จุด ลดลง 77.38 จุด หรือ -1.81% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,495.58 จุด ลดลง 68.07 จุด หรือ -1.04%
ตลาดหุ้นยุโรปร่วงลงอย่างหนัก หลังจากที่กระทรวงเศรษฐกิจของเยอรมนีเปิดเผยว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค.ของเยอรมนีร่วงลง 4% จากเดือนก.ค. ที่ขยายตัว 1.6% นับเป็นการร่วงลงมากที่สุดในรอบกว่า 5 ปี
ข้อมูลดังกล่าวสอดคล้องกับข้อมูลที่กระทรวงเศรษฐกิจของเยอรมนีเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า คำสั่งซื้อภาคโรงงานของเยอรมนีในเดือนส.ค.หดตัวลง 5.7% โดยร่วงหนักสุดนับตั้งแต่ปี 2552 เช่นกัน และย่ำแย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะลดลง 2.5% ซึ่งบ่งชี้ถึงความเสี่ยงที่เศรษฐกิจเยอรมนีซึ่งมีขนาดใหญ่สุดในภูมิภาคจะชะลอตัวลงในไตรมาสสาม
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากไอเอ็มเอฟได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2557 สู่ระดับ 3.3% และปี 2558 สู่ระดับ 3.8% ซึ่งลดลง 0.1% และ 0.2% จากที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนก.ค. ตามลำดับ โดยไอเอ็มเอฟให้เหตุผลถึงการปรับลดคาดการณ์ว่า เป็นเพราะความอ่อนแอในยูโรโซน และการชะลอตัวในตลาดเกิดใหม่หลักๆหลายแห่ง
หุ้นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจท่องเที่ยวร่วงลงอย่างหนัก หลังจากมีรายงานว่าพยาบาลชาวสเปนได้ติดเชื้อไวรัสอีโบลาในกรุงมาดริด โดยหุ้นอีซี่เจ็ทร่วงลง 5.3% ขณะที่หุ้นอินเตอร์เนชันแนล คอนโซลิเดทเต็ด แอร์ไลน์ส ร่วงลง 6.9%
ส่วนหุ้นกลุ่มสุขภาพปรับตัวลงเช่นกัน โดยหุ้น Qiagen NV ร่วงลง 1.3% และหุ้นไชร์ ปรับตัวลง 2.5%
หุ้นริโอทินโตในกลุ่มเหมืองแร่ ดีดตัวขึ้น 0.8% หลังจากริโอทินโตได้ปฏิเสธข้อเสนอการควบรวมกิจการจากบริษัทเกลนคอร์