ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดร่วง หลังสหรัฐเผยข้อมูลเศรษฐกิจอ่อนแอ

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday October 16, 2014 06:55 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ (15 ต.ค.) โดยดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลงรุนแรงสุดในรอบ 3 ปี หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ รวมถึงยอดค้าปลีกและข้อมูลด้านการผลิต

ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 3.2% ปิดที่ 311.36 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3,939.72 จุด ร่วงลง 148.53 จุด หรือ -3.63% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 8,571.95 จุด ร่วงลง 253.26 จุด หรือ -2.87% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,211.64 จุด ลดลง 181.04 จุด หรือ -2.83%

ตลาดหุ้นยุโรปร่วงลงเนื่องนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก เปิดเผยว่า ดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม (Empire State Index) ซึ่งเป็นการสำรวจกิจกรรมการผลิตในเขตนิวยอร์ก ร่วงลงแตะ 6.17 ในเดือนต.ค. จากระดับ 27.54 ในเดือนก.ย. ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือนก.ย.ร่วงลง 0.3% มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 0.1% ซึ่งสะท้อนถึงอุปสงค์จากผู้บริโภคที่อ่อนแอลง

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของเยอรมนีเปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อของเยอรมนีในเดือนก.ย.ขยายตัว 0.8% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นอัตราเดียวกันกับเดือนส.ค.และก.ค. โดยเงินเฟ้อของเยอรมนี ซึ่งมีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรปนั้น ยังคงอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ และคาดว่าจะเป็นปัจจัยที่กดดันธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ให้ดำเนินมาตรการเพิ่มเติมเพื่อหนุนเศรษฐกิจที่ตกต่ำในภูมิภาค

หุ้นไชร์ ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์รายใหญ่ ร่วงลง 22% หลังจากมีรายงานว่าบริษัท AbbVie Inc. ผู้ผลิตยารายใหญ่ของสหรัฐซึ่งบรรลุข้อตกลงซื้อกิจการของบริษัทไชร์ในกรุงดับลินและมีแผนจะย้ายที่อยู่ตามกฎหมายไปยังต่างประเทศเพื่อลดภาระด้านภาษีของบริษัทนั้น จะจัดการประชุมผู้บริหารในวันที่ 20 ต.ค.นี้ เพื่อพิจารณาผลกระทบของการที่รัฐบาลสหรัฐออกกฎระเบียบใหม่เพื่อจัดการกับการหลีกเลี่ยงภาษี

หุ้นแอสทราเซเนก้าในกลุ่มเวชภัณฑ์ ร่วงลง 3.2% ขณะที่หุ้นสมิธ แอนด์ เนฟิว ร่วงลง 5.4%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ