ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,614.81 จุด พุ่งขึ้น 215.14 จุด หรือ +1.31% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,419.48 จุด พุ่งขึ้น 103.41 จุด หรือ +2.40% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,941.28 จุด เพิ่มขึ้น 37.27 จุด หรือ +1.96%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กทะยานขึ้นหลังจากบริษัทแอปเปิล อิงค์ เปิดเผยว่า รายได้ในไตรมาสสี่ของบริษัทอยู่ที่ 4.21 หมื่นล้านดอลลาร์ และผลกำไรสุทธิแตะที่ 8.5 พันล้านดอลลาร์ หรือ 1.42 ดอลลาร์/หุ้นปรับลด ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ของตลาด
ขณะเดียวกันผู้ผลิตไอโฟนยังได้คาดการณ์รายได้ที่แข็งแกร่งสำหรับไตรมาสปัจจุบัน โดยคาดว่าจะอยู่ในช่วง 6.35-6.65 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งอยู่ในกรอบบนของการคาดการณ์ของตลาด
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังพุ่งขึ้นขานรับรายงานของสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) ที่ระบุว่า ยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐปรับตัวขึ้น 2.4% ในเดือนก.ย. แตะระดับสูงสุดในรอบหนึ่งปีที่ 5.17 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นการดีดตัวขึ้นจากที่ปรับตัวลงโดยไม่คาดหมายในเดือนส.ค. และตัวเลขดังกล่าวยังสูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้นแตะ 5.10 ล้านยูนิต
อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงกดดันในระหว่างวันหลังจากแมคโดนัลด์รายงานว่า กำไรสุทธิในไตรมาสสามร่วงลง 30% เทียบรายปี แตะ 1.07 พันล้านดอลลาร์ หรือ 1.09 ดอลลาร์/หุ้น เนื่องจากรายได้ลดลง 5% สู่ระดับ 6.99 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่โคคา-โคล่าเปิดเผยรายได้ไตรมาสสามที่ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ พร้อมเตือนว่าบริษัทยังคงเผชิญสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจมหภาคที่ท้าทาย ส่งผลให้หุ้นโคคา-โคล่าร่วง 6.31% มาซื้อขายที่ 40.56 ดอลลาร์
ทั้งนี้ หุ้นแอปเปิลพุ่งขึ้น 2.7% หุ้นฮาร์ลีย์-เดวิดสัน พุ่งขึ้น 7.3% หุ้นแมคโดนัลด์ปรับตัวลง 0.6% ส่วนหุ้นโคคา-โคลาดิ่งลง 6% และหุ้นเซาท์เวสต์ แอร์ไลน์ส พุ่งขึ้น 5.3%
นักลงทุนจับตาดูดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.ย.ของสหรัฐซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันนี้เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย หลังจากดัชนี CPI ส.ค. ปรับตัวลง 0.2% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเม.ย.ปีที่แล้ว เนื่องจากราคาพลังงานลดลง