ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,719.00 จุด เพิ่มขึ้น 33.27 จุด หรือ +0.19% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,701.87 จุด เพิ่มขึ้น 26.16 จุด หรือ +0.56% ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,052.75 จุด เพิ่มขึ้น 4.03 จุด หรือ +0.20%
ในช่วงแรกนั้น ตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดตลาดอ่อนแรงลง เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลต่อข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐ รวมถึง(PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนพ.ย.ของสหรัฐ ร่วงลงแตะ 54.7 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 10 เดือน จากเดือนต.ค.ที่ระดับ 55.9
ขณะที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 15 พ.ย.ลดลง 2,000 ราย สู่ระดับ 291,000 ราย แต่ตัวเลขดังกล่าวปรับตัวลดลงไม่มากเท่ากับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 285,000 ราย และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ทรงตัวในเดือนต.ค. ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 0.1%
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นในเวลาต่อมา หลังจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านมือสองเดือนต.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.5% แตะที่ 5.26 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.ปีที่แล้ว
หุ้นเบสท์บาย พุ่งขึ้น 7% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรไตรมาส 3 เพิ่มขึ้น 2.2% มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 2% ขณะที่หุ้นดอลลาร์ ทรี ทะยานขึ้น 5.2% จากข่าวที่ว่าดอลลาร์ ทรี กำลังเจรจาควบรวมกิจการกับแฟมิลี ดอลลาร์ สโตร์ส อิงค์
หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้น ขานรับราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ หลังจากมีการคาดการณ์ว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) อาจจะปรับลดเพดานการผลิตในการประชุมวันที่ 27 พ.ย.นี้