ดัชนี FTSE 100 ลดลง 1.97 จุด หรือ 0.03% ปิดที่ 6,729.17 จุด
สหรัฐมีการเปิดเผยข้อมูลที่อยู่อาศัยที่อ่อนแอกว่าคาด ซึ่งทำให้เกิดความไม่แน่ใจเกี่ยวกับการฟื้นตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์สหรัฐ และเป็นปัจจัยที่ถ่วงตลาดหุ้นลอนดอนให้ปิดตลาดในแดนลบ
กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขายบ้านใหม่ในสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนต.ค.เมื่อเทียบกับเดือนก่อน แตะที่ 458,000 ยูนิต ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 470,000 ยูนิต
ส่วนยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ย. ถูกปรับทบทวนลงสู่ระดับ 455,000 ยูนิต จากเดิมที่รายงานว่าอยู่ที่ 467,000 ยูนิต ขณะที่ยอดขายบ้านใหม่เดือนส.ค.และก.ค.ก็ถูกปรับลงเช่นกัน
ขณะเดียวกัน สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) ระบุว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ปรับตัวลดลง 1.1% แตะที่ระดับ 104.1 ในเดือนต.ค.เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.5% นับเป็นอีกหนึ่งสัญญาณซึ่งแสดงให้เห็นว่าการฟื้นตัวของตลาดที่อยู่อาศัยสหรัฐยังไม่มีความต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม การทะยานขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ได้ช่วยสกัดการปรับตัวขาลงของตลาด โดยหุ้นอันโตฟากัสตา และหุ้นแองโกล อเมริกัน ต่างปรับตัวแข็งแกร่ง