ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,801.20 จุด ลดลง 51.28 จุด หรือ -0.29% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,059.82 จุด ลดลง 0.49 จุด หรือ -0.02% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,766.47 จุด เพิ่มขึ้น 25.78 จุด หรือ +0.54%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลงตามตลาดหุ้นทั่วโลก โดยตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลงเกือบทุกตลาดเมื่อวานนี้ นำโดยดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ตลาดหุ้นจีน ที่ดิ่งลงกว่า 5% เนื่องจากนักลงทุนขายทำกำไร ภายหลังทางการจีนได้ออกมาชะลอความร้อนแรงของตลาดสินเชื่อ และตลาดหุ้นญี่ปุ่นร่วงลง 0.68% เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการแข็งค่าของเงินเยน
อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงหนุนในระหว่างวันเนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ตลาดนิวยอร์กดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ โดยดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้น 0.9%
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนในระหว่างวัน หลังจากสหพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติของสหรัฐ (NFIB) รายงานว่า ความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดเล็กปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2550 เนื่องจากการคาดการณ์สภาวะธุรกิจใน 6 เดือนข้างหน้าทะยานขึ้น และการคาดการณ์เกี่ยวกับยอดขายปรับตัวขึ้นเช่นกัน
หุ้นกลุ่มการเงินปรับตัวลง นำโดยหุ้นซิตี้กรุ๊ป และหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ต่างก็ปรับตัวลงอย่างน้อย 0.6% ส่วนหุ้นกลุ่มเหมืองแร่พุ่งขึ้นตามราคาทองคำในตลาดโลก นำโดยหุ้นนิวมอนท์ ไมนิ่ง ทะยานขึ้นเกือบ 5%
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยในวันพฤหัสบดี สหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ยอดค้าปลีกเดือนพ.ย. และสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนต.ค. และในวันศุกร์ สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพ.ย. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนธ.ค.จากรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกน