ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,533.15 จุด ร่วงลง 268.05 จุด หรือ -1.51% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,684.03 จุด ลดลง 82.44 จุด หรือ -1.73% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,026.14 จุด ลดลง 33.68 จุด หรือ -1.64%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงกดดันจากแรงขายในกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ตลาดนิวยอร์กร่วงลงรุนแรงกว่า 2.8 ดอลลาร์ ภายหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 5 ธ.ค. พุ่งขึ้น 1.5 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 380.8 ล้านบาร์เรล และกลุ่มโอเปคได้ปรับลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันทั่วโลกในปี 2558
หุ้นบริษัทพลังงานรายใหญ่ร่วงลง โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ดิ่งลง 3% หุ้นเชฟรอน ร่วงลง 2% และหุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ ปรับตัวลง 2.2% ขณะที่หุ้นบริษัทพลังงานขนาดเล็กก็ปรับตัวลงเช่นกัน โดยหุ้นไตรแองเกิล ปิโตรเลียม ร่วงลง 8.6% หุ้นคอมสต็อก รีซอสเซส ดิ่งลง 10.8% และหุ้นกู๊ดริช ปิโตรเลียม ปรับตัวลง 8.8%
หุ้นกลุ่มธนาคารอ่อนแรงลง หลังจากเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค คาดการณ์ว่ารายได้จากธุรกิจเทรดดิ้งจะชะลอตัวลงในไตรมาส 4 ปีนี้ โดยหุ้นเจพีมอร์แกน ร่วงลง 2.8% ส่วนหุ้นโกลด์แมน แซคส์ และหุ้นซิตี้กรุ๊ป ต่างก็ปรับลงอย่างน้อย 2.5%
หุ้น Yum! Brands ซึ่งเป็นผู้ประกอบการฟาสฟู๊ด KFC และ Taco Bell ร่วงลง 6.2% หลังจากบริษัทได้ปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการในปีนี้
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยในวันนี้ สหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ยอดค้าปลีกเดือนพ.ย. และสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนต.ค. และในวันพรุ่งนี้ สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพ.ย. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนธ.ค.จากรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกน