หลังจากตลาดเปิดทำการได้ไม่นาน ดัชนีดาวโจนส์ดีดขึ้น 68.39 จุด หรือ 0.39% แตะที่ 17,601.54 จุด ดัชนี S&P 500 บวก 12.26 จุด หรือ 0.61% ที่ระดับ 2,038.40 จุด และดัชนี Nasdaq บวก 27.85 จุด หรือ 0.59% มาอยู่ที่ 4,711.87 จุด
ดัชนีหุ้นสหรัฐดีดตัวขึ้นหลังจากที่ทั้ง 3 ดัชนีหลักร่วงลงกว่า 1% เมื่อวานนี้ เพราะถูกกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปีครั้งใหม่
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดค้าปลีกเดือนพ.ย.โต 0.7% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. เพราะได้แรงหนุนจากยอดขายรถยนต์ และยอดขายทางออนไลน์ โดยยอดค้าปลีกเดือนที่แล้วดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ เนื่องจากราคาน้ำมันที่ถูกลงช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายผู้บริโภคในช่วงเทศกาลวันหยุด
ด้านกระทรวงแรงงานรายงานว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 6 ธ.ค. ปรับตัวลง 3,000 ราย แตะที่ 294,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดใน 3 สัปดาห์ และนับเป็นสัปดาห์ที่ 13 ติดต่อกันแล้วที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 300,000 ราย
นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานยังเปิดเผยในเวลาเดียวกันว่า ราคานำเข้าของสหรัฐลดลง 1.5% ในเดือนพ.ย. ขณะที่ราคาส่งออกลดลง 1.0% โดยมีสาเหตุหลักมาจากราคาเชื้อเพลิงที่ปรับตัวลดลง