ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 2.6% ปิดที่ 330.42 จุด โดยเป็นการปรับตัวลดลงมากที่สุดในรอบเกือบ 2 เดือน
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดลดลง 116.93 จุด หรือ 2.77% ที่ 4,108.93 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดลดลง 267.80 จุด หรือ 2.72% ที่ 9,594.73 จุด ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนลดลง 161.07 จุด หรือ 2.49% ปิดที่ 6,300.63 จุด
การร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันศุกร์ ส่งผลให้ตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนี Stoxx Europe 600 ดิ่งลงไปถึง 5.8% ซึ่งเป็นการลดลงมากที่สุดในรอบกว่า 3 ปี
โดยในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา หุ้นบริษัทพลังงานยุโรปลดลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2552 ขณะที่หุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ก็ร่วงลงหนักสุดนับตั้งแต่ช่วงกลางปี 2555 หลังจากที่ราคาน้ำมันร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี นอกจากนี้ ภาวะการซื้อขายยังถูกกดดันจากสถานการณ์วุ่นวายทางการเมืองในกรีซ
ดัชนีหุ้นกรีซปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือนก.ค.2556 ในวันศุกร์ นำโดยหุ้นกลุ่มธนาคารอย่าง พิแรอุส แบงก์ และเนชั่นแนล แบงก์ ออฟ กรีซ ที่ร่วงลงกว่า 27% ในสัปดาห์นี้ ติดกลุ่มหุ้นที่ร่วงลงหนักสุดในบรรดาหุ้นที่คำนวณในดัชนี Stoxx 600
รัฐบาลกรีซประกาศเมื่อต้นสัปดาห์ว่าจะเริ่มกระบวนการเลือกตั้งประธานาธิบดีให้เร็วขึ้น ทำให้มีแนวโน้มว่านายกรัฐมนตรี แอนโทนิส ซามาราส จะต้องจัดการเลือกตั้งทั่วไปก่อนกำหนด ความเคลื่อนไหวดังกล่าวสร้างความวิตกกังวลไม่เพียงเฉพาะในกรีซ แต่ยังลามไปทั่วภูมิภาค เพราะมีความเป็นไปได้ที่พรรคไซรีซา ซึ่งต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัด จะคว้าชัยในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น อันจะสร้างความเสี่ยงต่อยูโรโซนอย่างที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว
หุ้นกลุ่มน้ำมันและก๊าซถูกเทขาย หลังจากที่ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงอีกวานนี้ ต่อเนื่องจากวันก่อน และแตะระดับต่ำอย่างที่ไม่เคยเห็นมาตั้งแต่ช่วงภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยรุนแรงสุดเมื่อปี 2552 เนื่องจากความกังวลที่เพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาด และอุปสงค์ที่อ่อนแอ
โดยราคาน้ำมันดิบเบรนท์ร่วงลงสู่ระดับต่ำกว่า 62 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบสหรัฐลดลงต่ำกว่า 58 ดอลลาร์
ด้านหุ้นบริษัทเหมืองแร่ดิ่งลง 8.5% แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.ปีที่แล้ว โดยหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ลบ 10% และริโอ ทินโต ลบ 7.4%