ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,959.44 จุด พุ่งขึ้น 154.64 จุด หรือ +0.87% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,781.42 จุด เพิ่มขึ้น 16.04 จุด หรือ +0.34% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,078.54 จุด เพิ่มขึ้น 7.89 จุด หรือ +0.38%
นักวิเคราะห์จากบริษัทเอสแอนด์พี แคปิตอล ไอคิว กล่าวว่า ตลาดหุ้นนิวยอร์กกำลังอยู่ในช่วงที่เรียกว่า "Santa Claus Rally" เมื่อพิจารณาจากการที่นักลงทุนยังคงเข้าซื้อหุ้นอย่างคึกคัก ซึ่งส่งผลให้ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดในแดนบวกติดต่อกัน 5 วันทำการ นอกจากนี้ นักลงทุนยังมองว่า เดือนธันวาคมเป็นเดือนที่ดีที่สุดของปี
ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงได้รับแรงหนุนจากการที่นักลงทุนขานรับมติการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ระบุว่าเฟดสามารถ "อดทน" รอต่อไปได้อีก ในการปรับท่าทีด้านนโยบายการเงินให้เข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งถ้อยแถลงดังกล่าวทำให้นักลงทุนมองว่า เฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดของสหรัฐที่ช่วยหนุนตลาดหุ้นนิวยอร์กนั้น เฟดสาขาชิคาโก เปิดเผยว่า ดัชนีกิจกรรมการผลิตทั่วประเทศในเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้นแตะ +0.73 จาก +0.31 ในเดือนต.ค. ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการขยายตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้ปรับตัวดีขึ้นอยางเห็นได้ชัด
ทั้งนี้ ภาวะการซื้อขายที่คึกคักในช่วง Santa Claus Rally สามารถสกัดปัจจัยลบจากรายงานของสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) ที่เปิดเผยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทยว่า ยอดขายบ้านมือสองในเดือนพ.ย.ร่วงลง 6.1% สู่ระดับ 4.93 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดไว้ที่ราว 5.2 ล้านยูนิต
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้น โดยหุ้นเฟซบุ๊ก หุ้นอินเทล คอร์ป ต่างก็ปรับตัวขึ้นกว่า 1.9% ขณะที่หุ้นทวิตเตอร์ และหุ้น Amazon.com ปรับตัวขึ้นอย่างน้อย 2.2%
อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก โดยหุ้น Chesapeake Energy และหุ้น Southwestern Energy ต่างก็ร่วงลงกว่า 5.4% และหุ้น Transocean ปรับตัวลง 1.8%
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนพ.ย., จีดีพีขั้นสุดท้ายช่วงไตรมาส, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายเดือนธ.ค.จากรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกน, ยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ย. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์