ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 1.1% ปิดที่ 352.4 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,379.62 จุด เพิ่มขึ้น 56.42 จุด หรือ +1.31% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,167.77 จุด พุ่งขึ้น 135.16 จุด หรือ +1.35% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,550.27 จุด เพิ่มขึ้น 51.49 จุด หรือ +0.79%
ตลาดหุ้นยุโรปทะยานขึ้นขานรับหุ้นกลุ่มพลังงานที่ดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง หลังจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นเนื่องจากสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ได้ปรับลดการคาดการณ์การขยายตัวของผลผลิตน้ำมันนอกกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) โดยหุ้นบีพีพุ่งขึ้น 5.3% ส่วนหุ้นโททาล และหุ้นบีจี กรุ๊ป ต่างก็ปรับตัวขึ้นกว่า 3%
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้รับปัจจัยบวกจากการคาดการณ์ที่ว่า อีซีบีอาจจะประกาศใช้มาตรการ QE ในการประชุมสัปดาห์หน้า หลังจากธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ประกาศยกเลิกเพดานการกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนฟรังก์สวิสเมื่อเทียบกับยูโรที่ 1.20 ฟรังก์สวิส พร้อมลดอัตราดอกเบี้ยลงสู่ระดับ -0.75% จาก -0.25% โดยมีเป้าหมายที่จะควบคุมค่าเงินฟรังก์สวิสไม่ให้แข็งค่ามากเกินไปเมื่อเทียบกับยูโร รวมทั้งไม่ให้เศรษฐกิจของประเทศถดถอย และตกอยู่ในภาวะเงินฝืด
ในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา นายมาริโอ ดรากี ประธานอีซีบีได้ส่งสัญญาณการใช้มาตรการ QE ครั้งใหญ่ ด้วยการกล่าวให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ Handelsblatt ของเยอรมนีว่า อีซีบีไม่สามารถมองข้ามความเสี่ยงจากภาวะเงินฝืดในยูโรโซน และยังกล่าวด้วยว่าความเสี่ยงที่อีซีบีจะไม่สามารถรักษาเสถียรภาพด้านราคาเอาไว้ได้นั้น มีสูงกว่าเมื่อ 6 เดือนก่อน ทำให้อีซีบีต้องเตรียมพร้อมในการปรับวงเงินในมาตรการ QE ในช่วงต้นปี 2558 หากมีความจำเป็น
หุ้นเนสเล่ หุ้นโนวาร์ติส และหุ้นโรช โฮลดิง ต่างก็ปรับตัวลงกว่า 4.5% ส่วนหุ้นบริษัทผลิตนาฬิกา รวมถึงหุ้น Cie. Financiere Richemont และหุ้นสวอช กรุ๊ป ร่วงลงกว่า 6.5%