เขากล่าวว่า กระแสคาดการณ์ที่กระพือไปทั่วตลาดที่ว่า ก.ล.ต.จงใจกดดันตลาดด้วยการออกข่าวร้ายนั้น ไม่เป็นความจริง
นายเขอชี้แจงว่า "การตรวจสอบได้พุ่งเป้าไปที่โบรกเกอร์ 45 แห่งนับตั้งแต่เดือนธ.ค.ปีที่แล้ว แต่เพิ่งมีการเปิดเผยผลเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว"
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดทำการดิ่งลงไปกว่า 7% ในวันนี้ เนื่องจากหุ้นบริษัทโบรกเกอร์และธนาคารพาณิชย์ร่วงลงอย่างหนัก โดยหุ้นกลุ่มโบรกเกอร์ส่วนใหญ่ร่วงลงแตะฟลอร์ 10% ภายหลังจากที่ทางการจีนได้เพิ่มมาตรการในการกำกับดูแลการซื้อขายแบบมาร์จิ้น
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตทรุดลง 260.14 จุด หรือ 7.70% ปิดที่ 3,116.35 จุด
หุ้นซิติค ซิเคียวริตีส์ และไห่ตง ซิเคียวริตีส์ ร่วง 10% ส่วนหุ้นธนาคารอินดัสเทรียล แอนด์ คอมเมอร์เชียล แบงก์ ออฟ ไชน่า ลบ 9.7%
คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ของจีน ประกาศใช้มาตรการควบคุมการซื้อขายหุ้นด้วยมาร์จิ้นของบริษัทหลักทรัพย์รายใหญ่ 3 แห่งของจีน ซึ่งได้แก่ ซิติค ซิเคียวริตีส์, ไห่ตง ซิเคียวริตีส์ และกัวไถ่ จูหนาน ซิเคียวริตีส์ โดยก.ล.ต.ได้สั่งห้ามไม่ให้บริษัทหลักทรัพย์ทั้ง 3 แห่งนี้ทำการเปิดบัญชีมาร์จิ้นครั้งใหม่ในช่วงเวลา 3 เดือนข้างหน้า หลังจากบริษัทเหล่านี้ละเมิดกฎระเบียบด้านการระดมเงินทุนด้วยมาร์จิ้น
การประกาศใช้มาตรการดังกล่าวต่อบริษัทหลักทรัพย์ 3 แห่งนี้ ได้จุดปะทุให้เกิดความวิตกกังวลที่ว่า ก.ล.ต.จีนอาจพยายามควบคุมการพุ่งขึ้นของหุ้นที่ซื้อด้วยเงินที่กู้ยืมมา หลังจากยอดเงินกู้ด้วยมาร์จิ้นพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.08 ล้านล้านหยวน หรือ 1.74 แสนล้านดอลลาร์ ณ วันที่ 13 ม.ค. จากระดับ 4 แสนล้านหยวน ณ สิ้นเดือนมิ.ย.ปีที่แล้ว