ณ เวลา 20.25 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าทรุดตัวลง 209 จุด หรือ 1.19% ที่ระดับ 17,405 จุด
หุ้นไมโครซอฟท์ คอร์ป, ดูปองท์ และแคเทอร์พิลลาร์ดิ่งลง หลังการเปิดเผยผลประกอบการที่ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ เปิดเผยในวันนี้ว่า ความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้น หลังการเลือกตั้งในกรีซ ซึ่งพรรคไซรีซาประสบชัยชนะนั้น ถือเป็นปัจจัยลบต่ออันดับความน่าเชื่อถือของประเทศ
"ความไม่แน่นอนทางการเงินที่ยืดเยื้อถือเป็นปัจจัยลบต่ออันดับความน่าเชื่อถือของกรีซ เนื่องจากจะเพิ่มความเสี่ยงต่อสภาพคล่อง และฐานะการเงินของประเทศ รวมทั้งบั่นทอนความเชื่อมั่นของผู้ฝากเงิน ขณะที่มีผลกระทบต่อแนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจ" มูดี้ส์ระบุ
ขณะนี้ มูดี้ส์จัดอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซอยู่ที่ Caa1 โดยแนวโน้มมีเสถียรภาพ ซึ่งอันดับความน่าเชื่อถือดังกล่าว อยู่ต่ำกว่าของสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ และฟิทช์ เรทติ้งส์ถึง 2 ขั้น ซึ่งให้อันดับอยู่ที่ B
นายอเล็กซิส ซิปราส นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของกรีซ ประกาศว่า เขาจะเปิดฉากการเจรจาครั้งใหม่เกี่ยวกับเงื่อนไขการชำระหนี้ของกรีซต่อกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และสหภาพยุโรป (อียู) โดยหวังให้มีการลดหนี้ และยุติมาตรการรัดเข็มขัด
ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองมองว่า ความแข็งกร้าวของนายซิปราสอาจจะส่งผลให้กรีซเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ และอาจทำให้กรีซต้องพ้นจากการเป็นสมาชิกยูโรโซนในที่สุด
นายปีเตอร์ โบฟิงเกอร์ สมาชิกคณะที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลเยอรมนี เตือนว่า หากกรีซพ้นจากสถานะประเทศสมาชิกยูโรโซนก็เท่ากับเป็นการบั่นทอนเสถียรภาพของยูโรโซน เพราะถึงแม้ว่าจะไม่มีผลกระทบกับประเทศอื่นๆ แต่การควบคุมผลกระทบที่ตามมานั้น จะเป็นไปอย่างยากลำบากมาก
ขณะที่นายฮันส์ เวอร์เนอร์ ซินน์ ผู้อำนวยการสถาบันของ Ifo ของเยอรมนี ได้แสดงความเห็นไปในทางเดียวกันว่า ภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันของกรีซมีความแตกต่างจากในอดีตที่ผ่านมา เนื่องจากปัจจุบันกรีซไม่มีศักยภาพด้านการแข่งขันและไม่อยู่ในสถานะที่จะสามารถชำระหนี้ได้ จึงต้องมีการเจรจาเพื่อลดหนี้ ดังนั้นหากการเมืองของกรีซเปลี่ยนขั้ว ก็อาจทำให้กรีซต้องพ้นจากการเป็นสมาชิกกลุ่มประเทศยูโรโซน