ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.1% ปิดที่ 368.76 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,737.87 จุด เพิ่มขึ้น 26.90 จุด หรือ +0.25% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,631.43 จุด เพิ่มขึ้น 20.49 จุด หรือ +0.44% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,810.60 จุด ลดลง 15.34 จุด หรือ -0.22%
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปเป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากตลาดได้รับทั้งปัจจัยบวกและลบเข้ามาในเวลาเดียวกัน โดยในส่วนของปัจจัยลบนั้น สำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนีรายงานว่า อัตราเงินเฟ้อเบื้องต้นเดือนม.ค.ปรับตัวลง 0.5% เมื่อเทียเป็นรายปี ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบกว่า 5 ปี และลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยับลงเพียง 0.2% สะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจยูโรโซนมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับภาวะเงินฝืด
อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับปัจจัยบวกจากรายงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐที่ระบุว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 24 ม.ค. ลดลง 43,000 ราย แตะ 265,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2543 และช่วยคลายความกังวลที่ว่าตลาดแรงงานอาจชะลอตัวลงในปีนี้
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนหลังจากรัฐบาลเยอรมนีได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ปี 2558 ขึ้นสู่ระดับ 1.5% จากที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนต.ค.ปีที่แล้วที่ระดับ 1.3% พร้อมกับคาดการณ์ว่า ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคจะเป็นปัจจัยหนุนเศรษฐกิจเยอรมนีให้ฟื้นตัวขึ้นเป็นวงกว้าง
หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง โดยหุ้นบีพี หุ้นโททาล หุ้น Eni SpA และหุ้นสแตทออยล์ ต่างก็ร่วงลงกว่า 1% ส่วนหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ดิ่งลงอย่างหนักถึง 4.3% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรไตรมาส 4/2557 ที่น้อยกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
หุ้นดอยช์แบงก์ พุ่งขึ้น 2.6% ขานรับผลประกอบการที่ดีเกินคาดของธนาคาร ขณะที่หุ้นดิอาจิโอปรับตัวขึ้น 3.1% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลกำไรช่วงครึ่งปีแรกที่ดีเกินคาด