ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,361.04 จุด พุ่งขึ้น 196.09 จุด หรือ +1.14% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,676.69 จุด เพิ่มขึ้น 41.45 จุด หรือ +0.89% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,020.85 จุด เพิ่มขึ้น 25.86 จุด หรือ +1.30%
ในช่วงแรกนั้น ตลาดหุ้นนิวยอร์กอ่อนแรงลงเนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคลดลง 0.3% ในเดือนธ.ค. เทียบกับที่เพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนพ.ย. ขณะที่ผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตของ ISM อยู่ที่ระดับ 53.5 ในเดือนม.ค. ลดลงจากระดับ 55.1 ในเดือนธ.ค.
อย่างไรก็ตาม ตลาดดีดตัวขึ้นในเวลาต่อมา เนื่องจากนักลงทุนขานรับราคาน้ำมันดิบ WTI ที่พุ่งขึ้นแข็งแกร่ง อันเป็นผลมาจากการคาดการณ์ที่ว่าปริมาณการผลิตน้ำมันในสหรัฐจะปรับตัวลดลง
ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นตามราคาน้ำมันดิบ โดยหุ้นเอ็กซอนโมบิล พุ่งขึ้น 2.5% ขณะที่หุ้นเชฟรอน ปรับขึ้น 3.4%
เอ็กซอนโมบิลเปิดเผยผลประกอบการก่อนที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กจะปิดทำการในวันจันทร์ว่า ผลประกอบการตลอดปี 2557 อยู่ที่ 3.25 หมื่นล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับปี 2556 ที่ระดับ 3.26 หมื่นล้านดอลลาร์
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมดัชนีภาวะธุรกิจนิวยอร์กเดือนม.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนธ.ค., ตัวเลขจ้างงานเดือนม.ค.จาก ADP, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนม.ค., ดัชนีภาคบริการเดือนม.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), ข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนธ.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ประสิทธิภาพการผลิต-ต้นทุนแรงงานต่อหน่วยเบื้องต้นในไตรมาส 4/2557 และตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนม.ค.