ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,862.14 จุด ลดลง 6.62 จุด หรือ -0.04% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,801.18 จุด เพิ่มขึ้น 13.54 จุด หรือ +0.28% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,068.53 จุด ลดลง 0.06 จุด หรือ 0.00%
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายและจับตาดูการประชุมฉุกเฉินระหว่างกรีซและกลุ่มเจ้าหนี้ยูโรโซน โดยการประชุมดังกล่าวมีขึ้นที่กรุงบรัสเซลส์ตั้งแต่เมื่อคืนนี้เวลา 23.30 น.ตามเวลาไทย ก่อนที่ผู้นำของสหภาพยุโรป (EU) จะจัดการประชุมหารือในเรื่องดังกล่าวในวันนี้ และรมว.คลังยูโรโซนจะประชุมอีกครั้งในวันจันทร์หน้า
ทั้งนี้ มีแนวโน้มว่าการประชุมครั้งนี้จะยังไม่มีความคืบหน้า ขณะที่ทุกฝ่ายมองล่วงหน้าไปถึงการประชุมรมว.คลังยูโรโซนอีกครั้งในวันจันทร์หน้าซึ่งคาดว่าอาจมีการบรรลุข้อตกลงแก้ไขปัญหาหนี้ระยะสั้นสำหรับกรีซ ก่อนที่มาตรการช่วยเหลือทางการเงินต่อกรีซฉบับปัจจุบันของ EU จะหมดอายุลงในวันที่ 28 ก.พ.นี้
ขณะที่สื่อรายงานว่า คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) อาจจะยื่นข้อเสนอประนีประนอมในการประชุม โดยจะมีการขยายเวลาการชำระหนี้ของกรีซออกไปอีก 6 เดือน เพื่อให้กรีซมีเวลาในการเจรจาและทำข้อตกลงกับ EU และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) รวมทั้งธนาคารกลางยุโรป (ECB) เกี่ยวกับประเด็นที่ยังคั่งค้างอยู่ และแผนการหลังสิ้นสุดมาตรการช่วยเหลือทางการเงินต่อกรีซ
หุ้นธอมสัน รอยเตอร์ ร่วงลง 2.53% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรต่อหุ้นรายไตรมาสอยู่ที่ 43 เซนต์ ซึ่งน้อยกว่าการคาดการณ์ของตลาด
หุ้นแอปเปิลพุ่งขึ้น 2.34% ขานรับข้อมูลที่ระบุว่า ทุนจดทะเบียนของแอปเปิลพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 7 แสนล้านดอลลาร์ หลังจากราคาหุ้นแอปเปิลปิดที่ระดับ 122.02 ดอลลาร์เมื่อวันอังคาร
หุ้นเป๊ปซี่ โค พุ่งขึ้น 2.46% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรต่อหุ้น 1.12 ดอลลาร์ในไตรมาส 4/2557 และกำไรต่อหุ้นตลอดปี 2557 อยู่ที่ 4.63 ดอลลาร์
นักลงทุนยังจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ยอดค้าปลีกเดือนม.ค., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนธ.ค.,ราคานำเข้าและส่งออกเดือนม.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนก.พ.จากรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกน