ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,972.38 จุด พุ่งขึ้น 110.24 จุด หรือ +0.62% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,857.61 จุด เพิ่มขึ้น 56.43 จุด หรือ +1.18% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,088.48 จุด เพิ่มขึ้น 19.95 จุด หรือ +0.96%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้นหลังจากประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินแห่งรัสเซียเปิดเผยว่า รัสเซียและผู้นำจากฝรั่งเศส เยอรมนี และยูเครน ได้บรรลุข้อตกลงสันติภาพแล้ว รวมถึงการถอนอาวุธหนักออกจากพื้นที่ของยูเครนและการหยุดยิง โดยการหยุดยิงนั้นจะเริ่มขึ้นในวันที่ 15 ก.พ.นี้
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนหลังจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ประกาศให้เงินกู้แก่ยูเครนเป็นจำนวน 4 หมื่นล้านดอลลาร์เพื่อช่วยเหลือประเทศให้พ้นจากภาวะล้มละลาย รวมทั้งข่าวที่ว่าสหภาพยุโรป (อียู) อาจจะยกเลิกหรือผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย เพื่อตอบแทนรัสเซียที่ให้ความร่วมมือในการคลี่คลายวิกฤตยูเครน
ความสำเร็จในการคลี่คลายวิกฤตการณ์ยูเครนได้ช่วยสกัดปัจจัยลบจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ รวมถึงยอดค้าปลีกเดือนม.ค.ที่ร่วงลง 0.8% สู่ระดับ 4.3977 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 0.5% และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์เพิ่มขึ้น 25,000 ราย สู่ระดับ 304,000 ราย ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 290,000 ราย
นอกจากนี้ ข้อตกลงสันติภาพในยูเครนยังสามารถชดเชยปัจจัยลบอันเนื่องมาจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเจรจาหนี้กรีซ โดยล่าสุดมีรายงานว่าการเจรจาเมื่อวันอังคารและวันพุธที่ผ่านมานั้น ยังไม่มีความคืบหน้า
หุ้นแอปเปิลพุ่งขึ้นติดต่อกัน 4 วันทำการ และเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุนดัชนี NASDAQ พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุด หลังจากมีรายงานว่าทุนจดทะเบียนของแอปเปิลพุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่เหนือระดับ 7 แสนล้านดอลลาร์
หุ้นซิสโก ซิสเต็มส์ พุ่งขึ้น 9.39% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้สุทธิรายไตรมาสเพิ่มขึ้น 67.7% สู่ระดับ 2.4 พันล้านดอลลาร์
หุ้นเทสลา มอเตอร์ส ร่วงลง 4.66% หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขขาดทุนต่อหุ้น 13 เซนต์ในไตรมาส
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงราคานำเข้าและส่งออกเดือนม.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนก.พ.จากรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกน