ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.2% ปิดที่ 382.27 จุด และปรับตัวขึ้น 1.4% ในระหว่างสัปดาห์ ทำสถิติปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกันและยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ต้นเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,830.90 จุด ลดลง 2.38 จุด หรือ -0.05% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดวันทำการล่าสุดที่ 6,915.20 จุด เพิ่มขึ้น 26.30 จุด หรือ +0.38% ส่วนดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดวันทำการล่าสุดที่ 11,050.64 จุด เพิ่มขึ้น 48.70 จุด หรือ +0.44%
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นยุโรปปิดทำการก่อนที่จะทราบผลการเจรจาระหว่างนายยานีส วารูฟาคีส รัฐมนตรีคลังของกรีซและรัฐมนตรีคลังของกลุ่มประเทศยูโรโซน
อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้นายวารูฟาคีสได้ให้สัมภาษณ์ว่า เขาจะยอมรับขั้นตอนและเงื่อนไขข้อตกลงในการให้ความช่วยเหลือทางการเงินในปัจจุบัน
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้รับปัจจัยหนุนจากรายงานของมาร์กิต อิโคโนมิคส์ ที่ระบุว่าว่า ดัชนี PMI รวมภาคการผลิตและบริการเบื้องต้นของยูโรโซนในเดือนก.พ. ปรับตัวขึ้นแตะ 53.5 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือน จากระดับ 52.6 ในเดือนม.ค. บ่งชี้กิจกรรมในภาคธุรกิจขยายตัวขึ้น โดยการจ้างงานขยายตัวเร็วสุดนับตั้งแต่ปี 2554
สำหรับดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้นในเดือนก.พ.ขยับขึ้นแตะที่ 51.1 ซึ่งสูงสุดในรอบ 7 เดือน จากระดับ 51.0 ในเดือนม.ค. และดัชนี PMI ภาคบริการเบื้องต้นเดือนก.พ.ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 53.9 ซึ่งสูงสุดในรอบ 7 เดือนเช่นกัน จากระดับ 52.7 ในเดือนม.ค.
หุ้นสแตนดาร์ด ไลฟ์ เพิ่มขึ้น 2.7% หลังจากเปิดเผยว่าบริษัทมีกำไรตลอดทั้งปีที่สูงเกินคาด
หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นแรงที่สุดในบรรดาหุ้นกลุ่มต่างๆ โดยหุ้นบีจี กรุ๊ป และหุ้นทูลโลว์ ออยล์ ต่างก็เพิ่มขึ้นมากกว่า 2% ขณะที่หุ้นเกลนคอร์เพิ่มขึ้น 3%