ดัชนี FTSE 100 ขยับลง 3.07 จุด หรือ 0.04% ปิดที่ 6,946.66 จุด
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ช่วงไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว โดยระบุว่ามีการขยายตัว 2.2% ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขเบื้องต้นที่ 2.6%
ด้านลอยด์ส แบงกิ้ง กรุ๊ป เผยกำไรสุทธิที่ 1.499 พันล้านปอนด์ (2.32 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในปี 2557 ซึ่งดีขึ้นมากเมื่อเทียบกับตัวเลขขาดทุนสุทธิ 802 ล้านปอนด์ในปีก่อนหน้า
นอกจากนี้ ลอยด์ส แบงกิ้ง กรุ๊ป ซึ่งรัฐบาลถือครองหุ้นอยู่ 23.9% ยังได้ประกาศจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่เกิดวิกฤตการเงินในปี 2551
อินตู พรอพเพอร์ตีส์ เป็นแกนนำหุ้นลบ โดยร่วงลง 5.10% ตามด้วยรอยัล แบงก์ ออฟ สกอตแลนด์ (RBS) ลดลง 5.02% หุ้นบาร์เคลย์ลดลง 1.98% หุ้นเวียร์ กรุ๊ป ลบ 1.73% หุ้นอเบอร์ดีน แอสเสท แมเนจเมนท์ ลบ 1.53%
หุ้น RBS ร่วงหนักสุดในรอบปี หลังจากที่มีรายงานความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการสอบสวนคดีการปั่นค่าเงิน
ส่วนหุ้นบวกนำโดย อินเตอร์เนชั่นแนล คอนโซลิเดเต็ด แอร์ไลน์ส กรุ๊ป (IAG) ที่พุ่งขึ้น 3.66% หลังจากบริษัทแม่ของสายการบินบริติช แอร์เวย์ส ได้ปรับเพิ่มเป้าหมายกำไรจากการดำเนินงานปีนี้ 22% ซึ่งสร้างความพอใจให้กับนักลงทุน หุ้นแอสโซสิเอเต็ด บริติช ฟูดส์ บวก 2.5% หลังบาร์เคลย์แนะนำให้ซื้อหุ้น หุ้นลอยด์ แบงกิ้ง กรุ๊ป บวก 0.6% ภายหลังธนาคารประกาศว่าจะจ่ายเงินปันผลเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี
สำหรับเหตุการณ์ความเคลื่อนไหวที่ตลาดจับตาในสัปดาห์หน้าได้แก่ การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษในวันพฤหัสบดี และการประกาศกรอบการทำงานของธนาคารกลางยุโรป (ECB) เกี่ยวกับมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ตามที่ ECB ได้เคยประกาศไว้เมื่อวันที่ 22 ม.ค.ว่าจะเข้าซื้อพันธบัตรจำนวน 6 หมื่นล้านยูโรต่อเดือน จนถึงเดือนก.ย.ปีหน้า โดยเริ่มต้นในเดือนมี.ค. ซึ่งจำนวนเงินดังกล่าวมีมูลค่าสูงกว่าระดับ 5 หมื่นล้านยูโรที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้