ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,995.72 จุด พุ่งขึ้น 138.94 จุด หรือ +0.78% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,942.44 จุด เพิ่มขึ้น 15.07 จุด หรือ +0.31% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,079.43 จุด เพิ่มขึ้น 8.17 จุด หรือ +0.39%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้นแข็งแกร่ง ขานรับข่าวการควบรวมกิจการและซื้อกิจการของบริษัทเอกชน รวมถึงข่าวที่ว่าอัลโค อิงค์ จะเข้าซื้อกิจการบริษัทอาร์ทีไอ อินเตอร์เนชันแนล เมทัลส์ อิงค์ มูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่ไซมอน พร็อพเพอร์ตี้ กรุ๊ป ได้เสนอซื้อกิจการเมซีริช มูลค่า 2.24 หมื่นล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ ข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นเมซีริชพุ่งขึ้น 7% หุ้นอาร์ทีไอ อินเตอร์เนชันแนล เมทัลส์ อย่างไรก็ตาม หุ้นอัลโค ดิ่งลง 5.4% และหุ้นไซมอน พร็อพเพอร์ตี ปรับตัวลง 0.1%
นักลงทุนให้ความสนใจหุ้นแอปเปิลอย่างคึกคัก ซึ่งช่วยหนุนราคาหุ้นดีดตัวขึ้น 0.4% หลังจากบริษัทเปิดตัว "แอปเปิล วอทช์" นาฬิกาอัจฉริยะ ซึ่งถือเป็นผลิตภัณฑ์ตัวแรกภายใต้การเข้ากุมบังเหียนของนายทิม คุก ในอาณาจักรแอปเปิล โดยคาดว่าแอปเปิลจะวางจำหน่ายแอปเปิล วอทช์ในเดือนเม.ย.นี้ ในราคาเรือนละ 349 ดอลลาร์ หรือราว 11,400 บาท
หุ้นเจนเนอรัล มอเตอร์ พุ่งขึ้น 3.1% หลังจากบริษัทประกาศแผนการซื้อคืนหุ้นจำนวน 5 พันล้านหุ้น ขณะที่หุ้นควอลคอมม์ ดีดขึ้น 2.3% หลังจากบริษัทประกาศแผนการซื้อคืนหุ้นจำนวน 1.5 หมื่นล้านหุ้น
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการที่ ECB เริ่มเข้าซื้อพันธบัตรเยอรมนีเมื่อวานี้ ตามมาตรการ QE ซึ่งได้มีการประกาศไว้ก่อนหน้านี้ โดยมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจยูโรโซน
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงสต็อกสินค้าและยอดค้าส่งเดือนม.ค., ดุลงบประมาณเดือนก.พ.ของรัฐบาลกลางสหรัฐ, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ยอดค้าปลีกเดือนก.พ., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนม.ค., ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.พ. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนมี.ค.จากรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกน