ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,895.22 จุด พุ่งขึ้น 259.83 จุด หรือ +1.47% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,893.29 จุด เพิ่มขึ้น 43.35 จุด หรือ +0.89% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,065.95 จุด เพิ่มขึ้น 25.71 จุด หรือ +1.26%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กทะยานขึ้นขานรับมุมมองที่ว่า เฟดอาจจะไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากมีรายงานว่ายอดค้าปลีกเดือนก.พ.ของสหรัฐลดลง 0.6% สู่ระดับ 4.37 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 และตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2%
เจย์ มอร์ล็อค นักวิเคราะห์จากเอฟทีเอ็น ไฟแนนเชียลกล่าวว่า ยอดค้าปลีกเดือนก.พ.ร่วงลงสวนทางกับการคาดการณ์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐ โดยเฉพาะตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคซึ่งเป็นปัจจัยสำคัฐในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจนั้น ยังคงเปราะบาง และอาจจะทำให้เฟดยังไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
นอกจากนี้ การร่วงลงของยอดค้าปลีกสหรัฐได้ช่วยสกัดการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ซึ่งทำให้นักลงทุนผ่อนคลายจากความวิตกกังวลที่ว่า การแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐในช่วงที่ผ่านมานั้น จะส่งผลกระทบต่อกลุ่มบริษัทส่งออก
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ข้อมูลแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐยังเป็นอีกปัจจัยที่หนุนตลาดหุ้นนิวยอร์กทะยานขึ้นด้วย โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 7 มี.ค. ลดลง 36,000 ราย สู่ระดับ 289,000 ราย ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นแตะ 305,000 ราย นับเป็นสัญญาณล่าสุดที่บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานยังคงปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
หุ้นซิตี้กรุ๊ปพุ่งขึ้น 3.3% หลังจากมีรายงานว่าคณะกรรมการเฟดอนุญาตให้ซิตี้กรุ๊ปเพิ่มการจ่ายเงินปันผล ส่วนหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ขยับลง 0.1%
หุ้นวอลท์ ดีสนีย์ พุ่งขึ้น 4.2% หลังจากบริษัทประกาศว่าจะสร้างภาคต่อของภาพยนตร์แอนนิเมชันยอดฮิตเรื่อง "Frozen" ขณะที่หุ้นแมทเทล ทะยานขึ้น 4.2%
ส่วนหุ้นอินเทลร่วงลง 4.73% หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์รายได้ในไตรมาสแรกปีนี้ เนื่องจากความต้องการพีซีซบเซาลง
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ รวมถึงดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.พ. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนมี.ค.จากรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกน