ดัชนี Stoxx 600 ปรับขึ้น 0.6% ปิดที่ 400.83 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,037.18 จุด เพิ่มขึ้น 3.76 จุด หรือ +0.07% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,899.40 จุด ลดลง 23.37 จุด หรือ -0.20% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,962.32 จุด เพิ่มขึ้น 17.12 จุด หรือ +0.25%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นเนื่องจากนักลงทุนขานรับถ้อยแถลงในการประชุมครั้งล่าสุดของเฟดซึ่งระบุว่า "การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 'ไม่มีแนวโน้ม' ที่จะเกิดขึ้นในการประชุมเดือนเม.ย. และระบุว่า การเปลี่ยนแปลงสิ่งชี้นำอัตราดอกเบี้ยไม่ได้หมายความว่าเฟดได้ตัดสินใจเกี่ยวกับกำหนดเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว"
อย่างไรก็ตาม แถลงการณ์ภายหลังการประชุมซึ่งเสร็จสิ้นเมื่อวันพุธที่ผ่านมานั้น เฟดได้ยกเลิกการใช้คำว่า "อดทน" ในการพิจารณาเรื่องกำหนดเวลาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้น นำโดยหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ปรับขึ้น 1% และหุ้นพรีเมียร์ ออยล์ พุ่งขึ้น 8%
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวขึ้นเช่นกัน นำโดยหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน พุ่งขึ้น 1.9% และหุ้นเฟรสนิลโล ทะยานขึ้น 5.4%
หุ้นดอยช์ ลุฟฮันซา พุ่งขึ้น 2.4% หลังจากบริษัทปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการ
นักลงทุนจับตาดูการเจรจาระหว่างกรีซและยูโรโซน ขณะที่ผู้นำยูโรโซนเตรียมเตือนกรีซว่า เวลาและความอดทนใกล้จะหมดลงแล้วสำหรับกรีซในการดำเนินการปฏิรูปตามที่ได้ตกลงไว้กับชาติเจ้าหนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงวิกฤตการณ์ที่อาจเกิดขึ้นจากการที่กรีซต้องพ้นจากยูโรโซน
ทั้งนี้ รัฐบาลกรีซเรียกร้องให้มีการจัดการประชุมเจรจาระหว่างผู้นำเยอรมนี, ฝรั่งเศส และสหภาพยุโรป (EU) เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้กรีซ