ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,976.31 จุด พุ่งขึ้น 263.65 จุด หรือ +1.49% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,947.44 จุด เพิ่มขึ้น 56.22 จุด หรือ +1.15% ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,086.24 จุด เพิ่มขึ้น 25.22 จุด หรือ +1.22%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้นขานรับข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐ โดยสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย พุ่งขึ้น 3.1% แตะระดับ 106.9 ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2013 นับเป็นสัญญาณซึ่งแสดงถึงการฟื้นตัวของตลาดที่อยู่อาศัยสหรัฐ
ด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนก.พ. ขณะที่รายได้ส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนก.พ.
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นทั่วโลก โดยตลาดหุ้นยุโรปปิดทะยานขึ้นแข็งแกร่ง ขณะที่ตลาดหุ้นจีนพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี หลังจากจีนเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับโครงการเขตเศรษฐกิจถนนสายไหม
ตลาดหุ้นนิวยอร์กขานรับถ้อยแถลงของนางเยเน็ท เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ระบุว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ จะเป็นการปรับขึ้นทีละน้อย เนื่องจากปัจจัยต่างๆที่ฉุดรั้งการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มที่จะค่อยๆลดน้อยลง ไม่ว่าจะเป็นอัตราการมีส่วนร่วมในกำลังแรงงานที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำ การขยายตัวของค่าแรงที่ยังซบเซา การแข็งค่าของดอลลาร์ซึ่งอาจจะกระทบต่อการส่งออก และการฟื้นตัวของการก่อสร้างที่อยู่อาศัยซึ่งยังคงซบเซา
หุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มการเงินทะยานขึ้น โดยหุ้นนิวฟิลด์ เอ็กซ์พลอเรชัน หุ้นเอ็กซอน โมบิล และหุ้นเชฟรอน ต่างก็ปรับตัวขึ้นอย่างน้อย 2.4% ส่วนหุ้นเจพีมอร์แกน และหุ้นทราเวลเลอร์ส ปรับตัวขึ้นอย่างน้อย 2.3%
หุ้นดรีมเวิร์ก แอนนิเมชัน พุ่งขึ้น 6.6% หลังจากมีรายงานว่ายอดขายตั๋วชมภาพยนตร์เรื่อง Home อยู่ที่ 54 ล้านดอลลาร์ในช่วงเปิดตัวเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ รวมถึงราคาบ้านเดือนม.ค.จากสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เขตชิคาโกเดือนมี.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค.จาก Conference Board