ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,763.24 จุด เพิ่มขึ้น 65.06 จุด หรือ +0.37% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,886.94 จุด เพิ่มขึ้น 6.71 จุด หรือ +0.14% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,066.96 จุด เพิ่มขึ้น 7.27 จุด หรือ +0.35%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นหลังจากมีรายงานว่า อิหร่านและชาติมหาอำนาจสามารถบรรลุข้อตกลงเบื้องต้นในการจำกัดศักยภาพโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน หลังจากการที่การเจรจาดำเนินไปเป็นเวลาหลายวัน ขณะที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติยังประกาศว่าจะยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่านด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐซึ่งได้มีการเปิดเผยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 28 มี.ค. ลดลง 20,000 ราย อยู่ที่ 268,000 ราย ซึ่งใกล้เคียงระดับต่ำที่สุดในรอบ 16 ปี นับเป็นสัญญาณล่าสุดที่บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานยังคงปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง
ด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขาดดุลการค้าในเดือนก.พ.ลดลงสู่ระดับ 3.544 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2552 ซึ่งสะท้อนถึงการนำเข้าที่ลดลงมากกว่าการส่งออก
หุ้นกลุ่มสื่อสารดีดตัวขึ้น นำโดยหุ้นไทม์ วอร์เนอร์ ทะยานขึ้น 2.7% ขณะที่หุ้นซีบีเอส คอร์ป พุ่งขึ้นกว่า 2.5% และหุ้นดิสคัฟเวอรี คอมมูนิเคชันส์ ปรับตัวขึ้น 2.5%
ส่วนหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงตามราคาน้ำมันดิบ หลังจากมีรายงานว่าอิหร่านและชาติตะวันตกสามารถบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์ โดยหุ้นวาเลโร เอนเนอร์จี หุ้นเทโซโร และหุ้นมาราธอน ปิโตรเลียม ต่างก็ร่วงลงกว่า 4.6%
หุ้นกลุ่มสายการบินปรับตัวลงเช่นกัน โดยหุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ส และหุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ ต่างก็ร่วงลงกว่า 2.3%
นักลงทุนจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนมี.ค.ในวันนี้ ด้านนักวิเคราะห์คาดว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้นเพียง 248,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ซึ่งน้อยกว่าเดือนก.พ.ที่เพิ่มขึ้น 295,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. และคาดว่าอัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 5.5% ในเดือนมี.ค.