ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,034.93 จุด พุ่งขึ้น 208.63 จุด หรือ +1.17% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,994.60 จุด เพิ่มขึ้น 62.79 จุด หรือ +1.27% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,100.40 จุด เพิ่มขึ้น 19.22 จุด หรือ +0.92%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากนักลงทุนขานรับข่าวที่ว่า ธนาคารกลางจีนประกาศปรับลดอัตราการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลงอีก 1% โดยมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจให้หลุดพ้นจากภาวะชะลอตัว
ทั้งนี้ นับเป็นการปรับลดอัตราส่วน RRR เป็นครั้งที่ 2 ในปีนี้ หลังจากที่ธนาคารกลางได้ปรับลดไปแล้ว 0.5% เมื่อวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยจีนมีเป้าหมายที่จะให้การสนับสนุนด้านการเงินในภาคส่วนที่เฉพาะเจาะจง โดยเฉพาะวิสาหกิจขนาดเล็ก ภาคการเกษตร และโครงการน้ำขนาดใหญ่
การตัดสินใจปรับลด RRR ในครั้งนี้มีเป้าหมายที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจให้หลุดพ้นจากภาวะชะลอตัว หลังจากทางการจีนเปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ชะลอลงสู่ระดับ 7% ในไตรมาสแรกปีนี้ จากระดับ 7.3% ในไตรมาส 4 ปี 2557 โดย GDP ไตรมาสแรกขยายตัวในอัตราที่ช้าที่สุดในรอบ 6 ปี และยังสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจจีนยังคงเผชิญแรงกดดันอย่างต่อเนื่อง
หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ขยับขึ้น 0.57% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรในไตรมาสแรกพุ่งแตะระดับ 2.39 พันล้านดอลลาร์ เทียบกับระดับ 1.51 พันล้านดอลลาร์ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่กำไรต่อหุ้นอยู่ที่ระดับ 85 เซนต์ สูงกว่าคาดการณ์ที่ระดับ 78 เซนต์
หุ้นฮัลลิเบอร์ตันพุ่งขึ้น 2.1% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งกว่าการคาดการณ์
หุ้นอินเตอร์เนชันแนล บิสิเนส แมชีนส์ ทะยานขึ้น 3.4% ก่อนที่บริษัทจะเปิดเผยผลประกอบการ
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงยอดขายบ้านมือสองเดือนมี.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนเม.ย., ยอดขายบ้านใหม่เดือนมี.ค. และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนมี.ค.