ดัชนี MSCI Asia Pacific ร่วง 1.2% เมื่อเวลา 13.06 น.ตามเวลาโตเกียว ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 28,136.29 จุด ลดลง 264.05 จุด, -0.93%
หุ้นกลุ่มธนาคารชั้นนำของจีนปรับตัวลง ภายหลังจากที่ได้รายงานตัวเลขกำไรที่ปรับตัวลง ส่งผลให้หุ้นแบงก์ ออฟ ไชน่า ร่วง 3.1% ส่วนหุ้นธนาคาร ICBC ของจีนร่วงลง 2.3%
สำหรับความเคลื่อนไหวในวันนี้ ได้แก่ การประชุมของ BOJ มีมติคงนโยบายผ่อนคลายการเงินในการประชุมวันนี้ แม้มีแนวโน้มว่า BOJ อาจจะปรับลดคาดการณ์ตัวเลขเงินเฟ้อในปีงบการเงินปัจจุบันซึ่งสิ้นสุดเดือนมี.ค. 2559 ในการรายงานสถานการณ์เศรษฐกิจรอบครึ่งปีซึ่งจะมีการเผยแพร่ในช่วงต่อไปของวันนี้
ทั้งนี้ คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของ BOJ ตัดสินใจที่จะยังคงดำเนินนโยบายในการเพิ่มฐานเงินที่อัตรา 80 ล้านล้านเยนต่อปี ผ่านการซื้อสินทรัพย์มูลค่ามหาศาล
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งแรกสำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ โดยระบุว่ามีการขยายตัวเพียง 0.2% เทียบกับระดับ 2.2% ในไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว และ 5% ในไตรมาส 3
การชะลอตัวดังกล่าวเกิดจากการที่ภาคธุรกิจลดการลงทุน ขณะที่การส่งออกดิ่งลง และผู้บริโภคลดการใช้จ่าย
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า จีดีพีมีการขยายตัว 1% ในไตรมาสแรก
คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ลงมติในการประชุมเมื่อวานนี้ ด้วยคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยในช่วง 0-0.25% ต่อไป ขณะที่ไม่ได้ส่งสัญญาณชัดเจนเกี่ยวกับกำหนดการในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ทั้งนี้ ในแถลงการณ์หลังการประชุม เฟดได้ระบุว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในไตรมาสแรกเกิดจากปัจจัยชั่วคราว และเฟดจำเป็นต้องใช้เวลาในการสร้างความมั่นใจต่อการคาดการณ์เกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ซึ่งหมายความว่าความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงกลางปีนี้ได้ลดน้อยลง