ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.64% ปิดที่ 397.99 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,029.31 จุด เพิ่มขึ้น 67.45 จุด หรือ +1.36% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,559.82 จุด พุ่งขึ้น 208.36 จุด หรือ +1.84% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,973.04 จุด เพิ่มขึ้น 23.41 จุด หรือ +0.34%
ตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงหนุนหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 9 พ.ค. ปรับตัวลง 1,000 ราย แตะ 264,000 ราย ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานยังคงมีความแข็งแกร่ง
หุ้นกลุ่มผู้ผลิตเหล็กปรับตัวขึ้น โดยหุ้นอาร์เซลอร์มิตตาล และหุ้นซอลซ์กิทเทอร์ ต่างก็พุ่งขึ้น 5.7% ส่วนหุ้น ThyssenKrupp ปรับขึ้น 2.8% หลังจากสหภาพยุโรป (อียู) ได้ขยายมาตรการตรวจสอบการแข่งขันในอุตสาหกรรมเหล็ก ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้เกิดการคาดการณ์ว่า อียูอาจจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กจากจีนและรัสเซีย
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนหลังจากนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) เปิดเผยเมื่อวานนี้ที่สำนักงานของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ว่า ECB จะยังคงดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป จนกว่าอัตราเงินเฟ้อจะดีดตัวขึ้น และภาคเอกชนรวมทั้งผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นมากขึ้น
นายดรากีกล่าวว่า โครงการซื้อพันธบัตรวงเงิน 1.1 ล้านล้านยูโร (1.3 ล้านล้านดอลลาร์) ตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) จะยังคงเดินหน้าต่อไปตราบเท่าที่มีความจำเป็น เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของ ECB อย่างสมบูรณ์