ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปเป็นไปอย่างซบเซา ซึ่งส่งผลให้ตลาดปิดร่วงลงเป็นวันที่ 3 ในรอบ 4 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สินของกรีซ โดยล่าสุดมีรายงานว่า รัฐบาลกรีซได้ยื่นแผนปฏิรูปเศรษฐกิจฉบับเบ็ดเสร็จให้แก่ทางเจ้าหนี้แล้ว พร้อมกับเรียกร้องให้ผู้นำของยุโรปให้การยอมรับข้อเสนอดังกล่าวเพื่อให้มีการบรรลุข้อตกลง และทำให้กรีซหลุดพ้นจากวิกฤตการณ์ทางการเงิน ทั้งนี้ กรีซมีกำหนดที่จะต้องชำระคืนเงินกู้กว่า 300 ล้านดอลลาร์ให้แก่ IMF ในวันที่ 5 มิ.ย.นี้ ซึ่งเป็นงวดแรกของการชำระคืนในช่วงเดือนมิ.ย.ที่มีมูลค่ารวมราว 1.6 พันล้านดอลลาร์
หุ้นกลุ่มผู้ผลิตรถยต์ซึ่งต้องพึ่งพาการส่งออกร่วงลงเพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยหุ้นโฟล์คสวาเก้น และหุ้นเดมเลอร์ ต่างก็ร่วงลงกว่า 1.5%
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงหนุนในระหว่างวัน จากรายงานของสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป หรือยูโรสแตท ที่ระบุว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ค. ในกลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร ปรับตัวขึ้น 0.3% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน และสูงกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ซึ่งอยู่ที่ 0.2%
นักลงทุนจับตาดูดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนพ.ค.ของประเทศต่างๆในยุโรปในวันนี้ รวมถึงอิตาลี ฝรั่งเศส เยอรมนี ยูโรโซน และอังกฤษ รวมทั้งรายงานยอดค้าปลีกเดือนเม.ย.ของสหภาพยุโรป
นอกจากนี้ นักลงทุนยังติดตามดูผลการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันนี้เวลา 18.45 น.ตามเวลาไทยในวันนี้