ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวลดลง 99.89 จุด หรือ 0.55% ปิดที่ 18,015.95 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 11.25 จุด หรือ 0.53% ปิดที่ 2,109.99 จุด และดัชนี Nasdaq ลดลง 15.95 จุด หรือ 0.31% ปิดที่ 5,117.00 จุด
นักวิเคราะห์กล่าวว่า เนื่องจากตลาดยังไร้ปัจจัยชี้นำใหม่ๆ นักลงทุนจึงหันไปให้ความสำคัญกับสถานการณ์วิกฤตหนี้สินของกรีซ โดยผู้นำประเทศยุโรปมีกำหนดจะประชุมฉุกเฉินเกี่ยวกับการหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ของกรีซในวันจันทร์นี้ ซึ่งมีขึ้นหลังจากที่การประชุมรัฐมนตรีคลังยุโรปไม่สามารถทำข้อตกลงในประเด็นวิกฤตหนี้สินของกรีซได้
นายเจอโรน ดิจเซลโบลม รัฐมนตรีคลังเนเธอร์แลนด์และประธานกลุ่มรัฐมนตรีคลังยูโรโซน หรือยูโรกรุ๊ป กล่าวในงานแถลงข่าวภายหลังการประชุมรัฐมนตรีคลังยุโรปที่กรุงบรัสเซลส์ว่า “ยังไม่มีแนวโน้มในการทำข้อตกลงเกี่ยวกับหนี้สินกรีซ"
ทั้งนี้ กรีซจะต้องชำระหนี้ประมาณ 1.6 พันล้านยูโรให้แก่ IMF ในวันที่ 30 มิ.ย. ขณะที่นางคริสติน ลาการ์ด ประธาน IMF กล่าวยืนยันว่า IMF จะไม่มีการเสนอให้เวลาปลอดหนี้แก่กรีซเป็นเวลา 2 เดือน หากกรีซไม่สามารถจ่ายหนี้ให้แก่ IMF ในวันที่ 30 มิ.ย.ได้
หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวลดลง โดยหุ้นเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ลดลง 1% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา คอร์ป และหุ้นเวลล์ส ฟาร์โก แอนด์ โค ลดลงอย่างน้อย 1.1%
หุ้นไมโครซอฟท์ คอร์ป ลดลง 1.3% ในขณะที่หุ้นกลุ่มสายการบินปรับตัวเพิ่มขึ้นเนื่องจากการปรับตัวลดลงของราคาน้ำมัน โดยหุ้นสกายเวสต์ อิงค์ หุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ กรุ๊ป อิงค์ และหุ้นยูไนเต็ด คอนทิเนนทัล โฮลดิ้งส์ อิงค์ ต่างก็ปรับตัวขึ้นอย่างน้อย 2.3%