ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.5% ปิดที่ 398.10 จุด
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,655.01 จุด ลดลง 12.33 จุด หรือ -0.18% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,086.74 จุด เพิ่มขึ้น 4.17 จุด หรือ +0.08% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,512.11 จุด ลดลง 8.56 จุด หรือ -0.07%
ในช่วงแรกนั้น ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดในแดนบวก เนื่องจากนักลงทุนขานรับข่าวที่ว่า รัฐสภากรีซมีมติอนุมัติมาตรการปฏิรูปด้านการธนาคารและกระบวนการยุติธรรมเมื่อวานนี้ ตามข้อตกลงที่นายกรัฐมนตรีอเล็กซิส ซิปราส ทำไว้กับกลุ่มประเทศเจ้าหนี้
อย่างไรก็ตาม ตลาดอ่อนแรงลงในเวลาต่อมา เนื่องจากนักลงทุนทุบขายหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกร่วงลง โดยหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ร่วงลง 1.5% หุ้นทุลโลว์ ออยล์ ดิ่งลง 3.7% และหุ้นบีพี ปรับตัวลง 1.4%
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทจดทะเบียน รวมถึงยูนิลีเวอร์ซึ่งเปิดเผยว่า กำไรสุทธิในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ร่วงลง 18% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แตะ 2.49 พันล้านยูโร (2.72 พันล้านดอลลาร์) หลังจากอัตราการขยายตัวของยอดขายชะลอลง
หุ้นเอเบอร์ดีน แอสเซท เมเนจเมนท์ ร่วงลง 7% หลังจากบริษัทเปิดเผยว่าผลประกอบการไตรมาส 2 ปีนีมีมูลค่าเพียง 9.9 พันล้านปอนด์ หรือ 1.55 หมื่นล้านดอลลาร์ เนื่องจากตลาดใหม่ซบเซาลง
นักลงทุนจับตาดูการเจรจาระหว่างรัฐบาลกรีซและเจ้าหนี้กลุ่มทรอยก้า ซึ่งประกอบด้วยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และกรรมาธิการยุโรป (EC) โดยการเจรจาซึ่งจะจัดขึ้นในวันนี้ที่กรุงเอเธนส์นั้น จะมุ่งเน้นไปที่เรื่องรายละเอียดเกี่ยวกับเงื่อนไขของมาตรการปฏิรูปเศรษฐกิจในข้อตกลงที่นายอเล็กซิส ซิปราส นายกรัฐมนตรีกรีซ ทำไว้กับทางเจ้าหนี้