ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,550.69 จุด ลดลง 47.51 จุด หรือ -0.27% ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 5,105.55 จุด ลดลง 9.83 จุด หรือ -0.19% ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,093.32 จุด ลดลง 4.72 จุด หรือ -0.22%
การร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงานยังคงสร้างแรงกดดันต่อตลาด โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ดิ่งลง 1.1% หุ้นมาราธอน ปิโตรเลียม ร่วงลง 1.9% หุ้นเซาท์เวสเทิร์น เอนเนอร์จี ปรับตัวลง 2% และหุ้นคอนโซล เอนเนอร์จี ดิ่งลง 5.2%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงกดดันจากผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทบางแห่ง รวมถึงบริษัทประกันรายใหญ่อย่าง ออลสเตท ซึ่งส่งผลให้หุ้นออลสเตท ดิ่งลงรุนแรงถึง 10% ขณะที่บริษัทซีวีเอส เฮลธ์ คอร์ปอเรชัน เปิดเผยผลประกอบการที่น้อยกว่าการคาดการณ์ของตลาดหุ้น และได้ฉุดราคาหุ้นของบริษัทร่วงลง 2.54%
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีอ่อนแรงลง โดยหุ้นแอปเปิลร่วงลงติดต่อกัน 5 วันทำการ ขณะที่หุ้นสกายเวิร์ก โซลูชันส์ และหุ้นเอวาโก เทคโนโลยีส์ ปรับตัวลงเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลงเล็กน้อย เนื่องจากภาวะการซื้อขายโดยรวมได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.8% ในเดือนมิ.ย. สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ เพราะได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ในภาคการขนส่ง และเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่ายอดสั่งซื้อภาคโรงงานได้ฟื้นตัวขึ้น
ขณะที่สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาวะธุรกิจนิวยอร์กพุ่งขึ้นแตะ 68.8 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือน จากระดับ 63.1 ในเดือนมิ.ย. นอกจากนี้ รายงานยังระบุว่า ดัชนีการจ้างงานดีดตัวแตะระดับ 64.8 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 11 เดือน
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในวันนี้ รวมถึงตัวเลขจ้างงานเดือนก.ค.จาก ADP, ข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนมิ.ย., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนก.ค. และดัชนีภาคการบริการเดือนก.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM)